วันจันทร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2554

Gotta Go Pose !

ถ้าเบื่อนักร้องที่มีรีมิกซ์ออกมาสองอัลบั้มหยั่งกับเพลงเดียวกัน แล้วยังมีหน้าเอาไปเปิดเดินแฟชั่นโชว์แถมยังบอกว่า..รอบปฐมทัศน์โลก..5..5..5..โถ..แม่คุณ มาฟังอะไรเลอะเทอะแต่เปรี้ยวๆกันดีกว่าค่ะ เมื่อ"Madonna"มาเจอกับ"Boney M"จากฝีมือการรีมิกซ์หลายซับหลายซ้อนหลายคนปนเป็นเพลงเดียวกัน


น่าจะเป็นการตัดหน้า,ประชด..หรืออะไรก็เถอะ กับข่าวที่มีนักร้องหญิงขี้กลากจับหัวออกมาประกาศว่าซิงเกิ้ลใหม่ของเธอจะเป็น"Vogue"รวมกับ"I Will Survive"ของศตวรรษนี้ โถ..เอาให้เพลงไม่เหมือนอัลบั้มก่อน..ก็พอค่ะ อย่าอะไรไปไกลขนาดนั้นเลย..5..5..5

วันเสาร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2554

Fall/Winter 2011-2012 : Paris Men's Best 5

ซีซั่นนี้ปารีสสวยหลายดีไซน์เนอร์ สวยจนอยากให้ตำแหน่งร่วม..ไม่อยากตัดแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งทิ้ง แต่คงต้องตัดใจ เอามาเดี่ยวๆตำแหน่งล่ะหนึ่งแล้วกัน บางแบรนด์ชอบเสื้อผ้าในคอเลคชั่น แต่จนใจในสไตล์ลิ่ง ที่เขียนและวิจารณ์มาดิฉันไม่เคยบอกว่าตัวเองถูกต้อง แต่บล็อคนี้..มันเป็นของดิฉัน(5..5..5) จะชอบจะเกลียดอะไร..มันก็แล้วแต่เจ้าของบล็อคซิย่ะ..5..5..5 แล้วก็การเขียนทุกครั้งทำขึ้นเพื่อเอาใจตัวเองล้วนๆ..หาของมาก๊อปล้วนๆ..หาได้ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมอันใดไม่..5..5..5 แต่ถ้าใครชอบและติดใจ..นั่นดิฉันก็ต้องขอบคุณในความไว้เนื้อเชื่อใจคนที่มีความรู้น้อยและไม่ทันสมัยอย่างดิฉันค่ะ

Juun.J

ไม่อยู่อันดับหนึ่งแล้วใครหน้าไหนจะได้..5..5..5 อืม..ม..อย่างที่ดิฉันเคยเขียนไว้ ดิฉันชอบงานแจ็คเก็ต แบรนด์ไหนทำแจ็คเก็ตสวยมักอยู่อันดับต้นๆ ปีนี้ปารีสเหมือนไม่มีเทรนด์..นี่แหละดี..เพราะไม่ตลาด ที่ว่าไม่มีเทรนด์เพราะลองดูในห้าอันดับทั้งหมดของดิฉันก็ได้ค่ะ แทบไม่ซ้ำแนวกันเลย เหมือนทานอาหารครบหมู่เหมือนมีระบบนิเวศในแฟชั่นที่ดีครบวงจร

Raf Simons

ดิฉันว่าซีซั่นนี้ดีไซน์เนอร์หลายคนทำให้เสื้อหน้าหนาว..ไม่น่าเบื่อ แจ็คเก็ตและโค๊ตไม่ธรรมดาและหน้าตาเหมือนจะไปเล่นหนังนักสืบอีกต่อไป วัสดุและวิธีคิดหลายอย่างในซีซั่นนี้ของ"Raf Simons"ทำให้นึกถึงบางชิ้นของ"Helmut Lang" แต่ลักษณะที่แตกต่างกันออกไป ที่ชอบก็คือการใช้วัสดุที่ไม่น่านำมาเจอกันในคอเลคชั่นเดียวกันได้เช่น"Neoprene"(น่าจะใช่)กับ"Mohair" หรือการดัดแปลงของที่เคยมีอยู่แล้วให้รูปร่างหน้าตาและวัสดุแปลกออกไปกว่าที่เคยเห็น

Christian Lacroix

"Christian Lacroix"คราวนี้แตกต่างจากตอนหน้าร้อนที่ผ่านมา..โดยสิ้นเชิง เห็นแว๊บๆ..นึกว่า"Balmain" กระเป๋าและรายละเอียดต่างๆสวยและเด็กขึ้น(ดูผู้ชายขึ้นด้วย..5..5..5) ชอบมาก..แต่ไม่มากเท่าสองอันดับแรกไง

Alexis Mabille

เสื้อผู้ชายที่น่าจะ"แรด"ที่สุดของซีซั่นนี้ เสื้อผู้ชายรายละเอียด"Haute Couture"..5..5..5 งานปัก,งานฝีมือระเอียดยิบ กางเกงยังคงไว้ที่ทรงรัดรึงตรึงใจจนเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์นี้ไปแล้ว วัสดุแบบ"Lamé"มาโผล่อีกทีก็โชว์นี้(คนล่ะเนื้อกับของ"Prada") จริงๆมันเป็นงานยากสำหรับดีไซน์เนอร์เพราะพื้นฐานเสื้อผ้าของผู้ชายไม่ได้หลากหลายเท่าของผู้หญิง การดัดแปลงส่วนใหญ่ก็มาจากเสื้อผ้าผู้ชายแบบพื้นฐาน ทำยังไงให้เสื้อโค๊ตแบรนด์เราไม่เหมือนเสื้อโค๊ตแบรนด์อื่นโดยที่ยังดูเป็นเสื้อโค๊ตอยู่..5..5..5 เป็นโจทย์ที่ตอบและทำยาก

Yves Saint Laurent

"Yves Saint Laurent"เรียบ..แต่ไม่ดูเชยหรือแก่ การทำเสื้อเรียบให้ดูดีย่อมยากกว่าการทำเสื้อที่มีดีเทลเยอะๆหรือเอาสไตล์ลิ่งมาช่วย ซึ่งเหมือนสี่แบรนด์ขั้นต้นที่กล่าวมา เสื้อผ้าคอเลคชั่นนี้ของ"Yves Saint Laurent"อยู่บนพื้นฐานของเสื้อผ้ามาตรฐานโดยทั่วไป ไม่มีวัสดุแปลกใหม่หรือชิ้นที่ใส่ยาก แต่กลับนำเอาเสื้อผ้าที่ดูคุ้นตาอยู่แล้วมาดัดแปลง จริงๆตำแหน่งนี้ดิฉันอยากให้"Valentino"ด้วย แต่ที่เลือก"Yves Saint Laurent"แทนที่จะเป็น"Valentino"ก็คงเพราะสีและเสื้อตัวนอกบางชิ้น

Picture : GQ , Now Fashion

วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2554

The Jacobs Wears Prada


พี่คันแย่คงนึกใจตอนถ่ายภาพนี้ว่า.. : "Marc, I'm really happy for you. I'll let you finish, but Prada had one of the best Collections of all time! One of the best Collections of all time!"

Picture : NY Mag

วันอังคารที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2554

Spring/Summer 2011 : Prada


Beijing : "Prada"ยกคอเลคชั่น"Spring/Summer 2011"ไปเดินที่ปักกิ่งมาวันนี้ เวทีรวมไปถึงการเซทต่างๆยกไปแบบ100% ที่เกินร้อยก็คือมีแบบเพิ่ม..แต่ไม่ได้ออกแบบใหม่..5..5..5 คือเอาแบบเดิมมาเติมมาต่อๆปะๆติดๆแค่นี้ตี๋,หมวย,อาเฮีย,อาม่าก็..ไอ๊..หยา..จะแย่เลี้ยว


ดิฉันไม่ได้ตกใจกับชุดปักเลื่อมหรือกระเป๋าใหม่ เพราะเอาเข้าจริงๆของที่ออกขายก็มักจะมีและไม่มีของที่เดินบนรันเวย์ บางทีขายจริงเยอะกว่าเดินมีชิ้นสวยกว่าซ่ะด้วยซ้ำ นี่เป็นเรื่องปกติของการค้า ใครๆก็ไปจีนกัน จนบางคนคิดว่าจีนเป็นเมืองแฟชั่น..นั่นไม่ใช่ แต่จีนมีพลเมืองที่มีเงินจับจ่ายใช้สอยของราคาแพงเยอะที่สุดในโลกตอนนี้ นั่นก็ไม่ใช่เป็นเพราะคนจีนรวยที่สุดในโลกอีก(อธิบายยากเนอะ..)


ต้นเดือนมีนานี้ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดดิฉันกำลังจะไปเซี่ยงไฮ้ แน่..เห็นไหมเข้ายุคกับเขาด้วย แหม..เห็นเขาไปกันดิฉันไปด้วยคนแล้วกัน

Picture : Vogue

Spring/Summer 2011 : Prada's Kaleidoscope


ก่อนที่โชว์"Spring/Summer 2010"ของ"Prada"จะเริ่มไปที่ปักกิ่งในวันนี้ ในเวปของ"Prada"มีวิดีโอสั้นๆที่เกิดจากการนำภาพของเสื้อผ้าในคอเลคชั่นมาทำเป็นภาพแบบ"Kaleidoscope"มาลงไว้ก่อนที่จะเข้าโชว์จริง

อาเล่ย

ไอ๊..หยา มาต่อกันทั้งตรุษจีนและ"Prada" มีเรื่องเกี่ยวเนื่องพัวพันนุงนัง เป็นเรื่องของ"อาเล่ย" ต๊าย..ย..อวดดียังไงย่ะ..ไปเรียกเขาแบบนั้น แหม..ลองมาเกิดเป็นลูกชายร้านขายหมูกรอบแถวนี้ซิ ในบ้านก็ต้องเรียกกันแบบนั้น..5..5..5


"อาเล่ย"หรือชื่อแบบจีนมาตรฐานสากลว่า"Zhao Lei" นายแบบจีนแท้ๆ(โถ..หน้าตายังไม่สามารถบ่งบอกสัญชาติได้อีกเหรอค่ะ?) ที่น่าจะดังเพราะว่าเป็นหนึ่งในนายแบบโฆษณาของ"Prada"เมื่อเมื่อ"Spring/Summer 2010" หลังจากนั้นมาก็มีงานแฟชั่นโชว์ไม่ขาดสาย จนสามารถแย่งตำแหน่ง"อาตี๋ประจำรันเวย์"มาจาก"อาฮวง"แชมป์เก่าหลายสมัย..จนน่าจะเรียกว่า"เฮียฮวง"ได้แล้ว


ตอนนี้จะเห็น"อาเล่ย"ปรากฎกายอยู่ตามรันเวย์,หนังสือแฟชั่นบ่อยจนชินตาทั้งในและนอกประเทศจีน รูปแฟชั่นเซทด้านบนมาจากหนังสือ"Men's Health"ของจีนฉบับเดือนตุลาคมปี2010 ไม่รู้ว่างานแฟชั่นโชว์ของ"Prada"ที่กำลังจะมีขึ้นจะมี"อาเล่ย"เดินด้วยรึปล่าว หรือจะมีตี๋เล็ก,ตี๋น้อยมาเป็นคู่แข่งร่วมกับ"อาเล่ย"ในงานนี้รึปล่าว ต้องคอยดูค่ะ

Picture : WWD , Fashion Mag , Asian Models

มิวเซีย..ยู่อี่ ปราด้า..ฮวดใช้


มิวเซีย..ยู่อี่ ปราด้า..ฮวดใช้

คิดถึงปราด้า..ให้ได้ปราด้า คิดถึงมิวมิว..ให้ได้มิวมิว

แหม..ล้อเล่น นี่เป็นบัตรเชิญแฟชั่นโชว์ของ"Prada"ที่ปักกิ่งต่างหากค่ะ

แค่สีกับฮวงจุ้ยในการออกแบบบัตรก็กินขาดแล้ว..5..5..5

Fall/Winter 2011-2012 : See-Through Men's ?


เสื้อผู้ชายโต้ลมหนาว รับโลกร้อนใช่ไหมค่ะเนี่ย?..หน้าร้อนไม่มีเสื้อแบบนี้..มามีหน้าหนาว ตัวซ้ายบางจนไม่เหลืออะไรให้จินตนาการอีกจาก"Alexis Mabille" ส่วนสีดำตัวขวาจริงๆผ้าหนากว่าตั้งเยอะแต่ถ่ายรูปออกมาแล้วทะลุปุโปร่งเท่ากันจาก"Moschino" หนาวหน้า..หนุ่มๆอย่าลืมใส่เสื้อโชว์นมไปเที่ยวปีใหม่รับโลกแตกกันน่ะค่ะ

Picture : Fashion Mag , Moschino

วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554

Fall/Winter 2011-2012 : Milan Men's Best 5

ดิฉันว่าแฟชั่นสมัยนี้มันเร็วๆยังไงชอบกล เหมือนเพิ่งดูหน้าร้อนไปแป๊ปๆ..ไปเมื่อกี้..อะไรทำนองนั้น หันมาอีกที..ต๊าย..วันนี้โชว์เสื้อผ้าผู้ชายที่ปารีสเป็นวันสุดท้ายแล้ว โถ..จะรีบไปไหนกัน..5..5..5 มาว่ากันดีกว่าเรื่องของดีเมืองมิลาน..ว๊าย..ไม่ใช่เรื่องผู้ชาย ว่าซีซั่นนี้ดิฉันชอบเสื้อผ้าจากโชว์ไหนของใครบ้างที่มิลาน แต่จะบอกไว้เนิ่นๆก่อนอ่านว่าซีซั่นนี้ดิฉันผิดหวังมิลานค่อนข้างมาก

D&G

"D&G"กับคอเลคชั่นที่ดูสนุกและเด็กลงเหมือนกับยุคต้นๆของแบรนด์ ถึงแม้จะไม่สนุกและเด็กเท่าสมัยก่อน แต่ก็แยกแยะออกจาก"Dolce&Gabbana"ในซีซั่นเดียวกันได้ หลังจากที่แยกไม่ออกอยู่นานหลายปี อยากให้"D&G"กลับมาสนุกและเด็กลงเหมือนเดิม แต่นั่นคงเป็นไปได้ยากเพราะเดี๋ยวนี้คนที่ตัดสินสินค้าน่าจะเป็นจากความต้องการของ"Buyer"ที่จะซื้อเสื้อผ้าไปขายต่อ มากกว่าที่จะเป็นความต้องการของดีไซน์เนอร์โดยตรงแบบในสมัยก่อน

Moschino

หนึ่งในเสื้อผ้าแบรนด์ที่มีความคิดสนุกสนานแบบ"Forever Young" ไม่เคยหลุดคอนเซปแม้ตัวดีไซน์เนอร์เจ้าของแบรนด์จะตายไปหลายปีแล้ว ไม่จำเป็นต้องขบคิด,ไม่จำเป็นต้องตีความและไม่ต้องมีเซอร์ไพรส์ เสื้อของ"Moschino"เรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยคอนเซปที่ชัดเจน คงเป็นแบรนด์เดียวที่กล้าทำเสื้อผ้าล้อเลียนดีไซน์เนอร์คนอื่นๆ คราวนี้"Moschino"มากับคอนเซปกีฬาทั้งรักบี้,ฟุตบอล การผสมเสื้อสองประเภทเข้าด้วนกัน น่าจะเป็นแนวคิดใหม่ของซีซั่นนี้ เพราะเห็นทำกันหลายแบรนด์ เช่นเสื้อแจ็คเก็ตผสมกับเสื้อกีฬาอยู่ในตัวเดียวกัน หรือการใส่เสื้อแจ็คเก็ตกีฬาเข้ากับชุดสูท

Prada

"Prada"..ราชินีแห่งความเรียบง่ายแต่เข้าใจยาก มาซีซั่นนี้กับของที่เรียบง่ายและเข้าใจยากเช่นเดิม เสื้อท่อนบนที่ใช้ผ้า"Lamé"หลากสีไล่เฉดทำเกือบทั้งคอเลคชั่น ที่มาพร้อมกับวัสดุเนื้ออื่นๆแต่อยู่ในการไล่โทนสีเดียวกันกับผ้า"Lamé" เป็นการกลับมาใช้สีน้ำตาลและสีม่วงอีกครั้งของ"Prada" กระเป๋ารุ่นใหม่ที่คุมโทนสีให้ไล่เฉดกับเสื้อผ้าในคอเลคชั่น ปีนี้ที่สำคัญอีกหนึ่งเรื่องน่าจะเป็นเรื่องคู่สี แน่นอนว่าไม่ใช่คู่สีแบบเบสิคทั่วไปที่เห็นจนชินตา

Jill Sander

"Raf Simons"กับการเล่นกับสีอีกครั้งหลังจากซีซั่นที่ผ่านมา สีสวยคนล่ะเฉดกับตอนหน้าร้อนแต่ยังคงนำสีที่ตัดกันมาใส่รวมกัน โดยที่มีบางตัวในคอเลคชั่นนี้หน้าตาดู"คล้าย"กับที่"Jil Sander"ทำให้กับ"+J"ที่กำลังจะออกขายในวันที่26มกราคมนี้ ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือตั้งใจ?

Bottega Veneta

เป็นความสวย..ที่สวยน้อยกว่าทุกครั้ง ซีซั่นนี้ดีไซน์เนอร์ที่มีโชว์ในมิลาน มีวิธีหรือแนวคิดคล้ายๆกันหลายแบรนด์ โดยมีท่อนบนหรือท่อนล่างเป็นสีสันที่ค่อนข้างสด ใส่รวมกับเสื้อผ้าชิ้นอื่นๆที่เป็นสีดำหรือเทา แทนที่จะเป็นเทา,ดำหรือสีหม่นๆออนโทนแบบที่เคยทำมา แต่ก็สวยน้อยกว่ามาตรฐานค่ะ

Picture : Dolce&Gabbana , Fashion Mag , Wallpaper , GQ

ป.ล. เมาท์ๆ..เวป"WWD"ยกให้เสื้อผ้าผู้ชายของ"Marc Jacobs"เป็นหนึ่งในไฮ-ไลท์โชว์ของมิลาน มีใครเห็นด้วยไหมค่ะ?..

วันเสาร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2554

Fall/Winter 2011-2012 : Julius


ซีซั่นนี้"Julius"เปลี่ยนไป..ไปในทางที่ไม่ดีนัก แจ็คเก็ตหนังตัวสวยๆที่เคยมีประจำลดลง..ที่มีอยู่ก็สวยน้อยกว่าทุกซีซั่นที่ผ่านมา แต่ของที่เพิ่มขึ้นมาแทน..ดิฉันไม่ถูกใจ "Tatsuro Horikawa"กำลังจะพา"Julius"ไปไหน? เพราะสิ่งที่เพิ่มขึ้นมากลับหน้าตาเหมือน.."Rick Owens","Damir Doma"..หรือแย่ไปกว่านั้น.."Alexander Wang" นี่คือทิศทางของแฟชั่น?..สินค้าสำหรับกลุ่มลูกค้านี้ขายดี..เราควรมีกับเขาบ้าง? อันนี้ดิฉันคงตอบไม่ได้


Picture : WWD

Fall/Winter 2011-2012 : Alexander McQueen's Details



Fall/Winter 2011-2012 : Juun.J's Glasses


Picture : Fashion Mag

วันศุกร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554

Fall/Winter 2011-2012 : Juun.J


ในความคิดเห็นส่วนตัวของดิฉัน"Juun.J"ยังคงรักษามาตรฐานของตัวเองไว้ได้ ถึงแม้บางคนจะบอกว่าสู้คอเลคชั่นยุคแรกๆของ"Juun.J"ไม่ได้ แหม..คนเราก็ต้องหมดมุกกันบ้าง เหมือนเดิมแล้วยังสวย ดีกว่าฉีกแนวแล้วชนเสาไฟฟ้าน่ะค่ะ


แบบบางแบบ,สีบางสีรวมไปถึงวัสดุบางอย่างทำให้ดิฉันนึกถึงผลงานของ"Claude Montana" คัตติ้งบางตัวทำให้นึกถึง"Thierry Mugler" หรือแม้แต่ลูกเล่นที่ทำให้นึกถึง"Jean Paul Gaultier"


เสื้อบางชิ้นในคอเลคชั่นนี้สวยระดับขึ้นหิ้งในใจของดิฉัน ดิฉันว่าถ้า..ไม่คิดมาก เสื้อของ"Juun.J"คอเลคชั่นนี้ตอบโจทย์ทั้งในแง่การขายและความสวยงามได้ดี เพราะดิฉันว่าซีซั่นนี้มิลานดูน่าผิดหวัง มีเสื้อสวยน้อย,ซ้ำซากเยอะ ป่านนี้ผ้า"Top Dye"หรือผ้า"Heather"สีเทาคงทอกันจนหมดสต๊อกเส้นด้ายของประเทศอิตาลีไปแล้ว..5..5..5 น่าเบื่อ..

Picture : Fashion Mag

Fall/Winter 2011-2012 : Alexis Mabille


ชอบเสื้อของ"Alexis Mabille"ซีซั่นนี้อยู่สองเซท เซทแรกด้านบน..5..5..5..เสื้อเชิ๊ตปักเลื่อมติดลูกไม้เซาะดอก..5..5..5 เซทสองด้านล่าง..เสื้อยืดทำจากผ้าชีฟอง("Tulle"..?..อะไรก็เถอะ ทำนองนั้น)..ปักเลื่อมเป็นรูปลายพิมพ์..แม้น..แมน..ชอบมากค่ะ..5..5..5 ถึงจะชอบแค่สองเซทแต่ก็อาจจะกลายเป็นหนึ่งใน"Best 5"ของบล็อคดิฉันได้ไม่ยาก เพราะชอบมาก ไม่ค่อยเห็นคนทำเสื้อผู้ชาย"แรดๆ"มานานแล้ว


Picture : Fashion Mag

วันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2554

Fall/Winter 2011-2012 : Thierry Mugler


มาแล้วภาพของเจ้าที่สวยและชัดกว่าของ"Go Runway"..5..5..5 "Go Runway"เป็นเวปที่ถ่ายรูปรันเวย์ส่งให้กับ"Vogue"ได้ยังไงก็ไม่รู้ แบบว่าหลายโชว์ที่เคยดูรูปเสียเยอะมาก ภาพไหวเหมือนไม่ใช่มืออาชีพถ่าย


โชว์นี้ของ"Thierry Mugler"ดูเหมือนโชว์ที่โดนทำขึ้นมาเพื่อโปรโมทอัลบั้มใหม่ของ"Lady Gaga"ในสายตาของแฟนคลับ ซึ่งก็คงไม่ผิดนัก..แต่ดิฉันอยากให้มองไปที่งานของ"Romain Kremer"โดยมองข้ามองค์ประกอบห่วยๆของ"Nicola Formichetti"อย่างสร้อยไข่มุกที่ให้นายแบบใส่ งานของ"Romain Kremer"ใช้ได้ดีตามมาตรฐานผลงานของตัวเอง ซึ่งหลายชิ้นแบบและสีอาจดูคล้ายผลงานของ"Raf Simons" แต่นั่นก็คือการหยิบเอาผลงานเก่าของ"Thierry Mugler"ที่เคยทำมาก่อนมาดัดแปลงให้เข้ากับยุคสมัย


เท่าที่ดู"Nicola Formichetti"พยายามดึงเอาสัญลักษณ์ของ"Thierry Mugler"ที่เคยใช้อย่างการใช้ผ้าโปร่งคลุมหน้า,สร้อยไข่มุก,ยางลาเท็กซ์หรือแม้แต่พังค์ บางอย่างดูดีกับบางชุด..แต่บางอย่างดูไม่ได้เลยไม่ว่ากับชุดไหนๆ เรื่องเพลงประกอบการเดินโชว์ที่"Lady Gaga"เป็นคนทำ(จริงอ่ะ?..แบบว่าหยิบแผ่นมามิกซ์เอง..อะไรอย่างนั้นน่ะเหรอ?) ไม่มีอะไรแปลกใหม่ไปมากกว่าแผ่นเพลงป๊อปรีมิกซ์ทั่วๆไปหรือซิงเกิ้ลที่ผ่านๆมาของเธอ

Picture : Fashion Mag

วันพุธที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2554

Fall/Winter 2011-2012 : Frankie Morello


ซีซั่นนี้รูปโชว์ของ"Frankie Morello"ดูน้อยลงไปถนัดตา หาดูยากไม่ค่อยมีเวปไหนลง อาจเนื่องด้วยว่า..ไม่รู้จะถ่ายรันเวย์ด้านไหน หรือด้านไหนเป็นแฟชั่นโชว์กันแน่..แหม..ก็ทั้งสองด้านนั่นแหละค่ะ แต่ว่านี่มัน"Fall/Winter"รูปเสื้อผ้ามันก็น่าจะตามนั้น..5..5..5 นายแบบที่เดินอยู่รันเวย์ด้านกางเกงในเลยไม่มีคนลงภาพเป็นเรื่องเป็นราว


Picture : Fashion Mag

วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2554

Fall/Winter 2011-2012 : D&G


คอเลคชั่นที่หน้าตาและอารมณ์กลับไปคล้ายยุคต้นๆของ"D&G" แต่น้อยและดูเกรงใจตลาดกว่าแต่ก่อน แต่อย่างน้อยๆก็ดูขี้เล่นขึ้นไม่ดูแก่สูสีกับ"Dolce&Gabbana"เหมือนคอเลคชั่นก่อนๆ แนว"Pop Couture"แบบอเมริกันเป็นสิ่งที่"D&G"หยิบมาใช้บ่อยๆเมื่อก่อนหน้านี้ จนหลังๆมาเสื้อผ้าเริ่มซีเรียสและแก่ขึ้นจนบางทีดิฉันแยกแบรนด์ทั้งสองไม่ออก ก็ดี..แต่น่าจะดีและสนุกได้มากกว่านี้


Picture : Zimbio , Dolce&Gabbana

Fall/Winter 2011-2012 : Prada


เมื่อไม่กี่วันก่อนดิฉันเปิดไปเจอเวปของหนังสือพิมพ์แห่งนึง ที่ช่วงหลังมานี้บังอาจหาญมีบทความเกี่ยวกับแฟชั่นโดยเฉพาะ แน่นอนคนที่มาเขียนอ่านดูไม่ต้องละเอียดก็รู้ว่าไม่มีความรู้ทางด้านนี้..แม้แต่นิดเดียว ความเจริญทางด้านวัตถุ ไม่ได้วัดกันที่เทคโนโลยี่อย่างเดียว เราคงต้องมีความเข้าใจกับมันด้วย บทความในเวปของหนังสือพิมพ์เล่มนั้นไม่ได้มุ่งหวังไปที่เทรนด์จริงๆอย่างที่เขียนหัวข้อไว้ แต่นำเอาแฟชั่นที่ดู"พิลึก"ในสายตาของคนไทยทั่วไปที่ไม่ได้สนใจในแฟชั่นนำมาลงเพื่อหวังผลในการวิพากวิจารณ์แบบไม่ยั้งคิด จริงๆนั่นก็เป็นนโยบายหลักของหนังสือพิมพ์เล่มนั้นอยู่แล้ว


ซึ่งหนึ่งในเหยื่อของความสิ้นคิดนั้นก็คือ"Prada"คอเลคชั่น"Spring/Summer 2011" แน่นอนว่ามีคนเข้ามาคอมเมนท์แบบสาดเสียเทเสียตามประสาแนวทางของหนังสือพิมพ์นั้น โดยที่การเขียนบ่งบอกถึงความไม่มีความรู้อะไรทางด้านนี้เลยแม้แต่นิดเดียว บางคนถึงกับอ้างตัวเองว่าติดตามคอเลคชั่นของ"Prada"มานานแต่วิจารณ์แบบเหมือนเห็นคอเลคชั่นของ"Prada"ครั้งนี้เป็นครั้งแรก


ดิฉันไม่ได้ว่า"Prada"วิเศษเหนือดีไซน์เนอร์คนอื่นๆ แต่"Prada"มักมีอิทธิพลกับวงการแฟชั่น(คนล่ะแนวกับ"Dolce&Gabbana") โดยเฉพาะการมีอิทธิพลต่อดีไซน์เนอร์ด้วยกัน นั่นเป็นเรื่องแปลก หลายคนที่สนใจในแฟชั่นคงสังเกตุเห็นได้ว่า เรามักเห็นอิทธิพลของ"Prada"ที่มีต่อดีไซน์เนอร์คนอื่นๆในคอเลคชั่นถัดไป จริงๆเสื้อของ"Prada"ค่อนข้างเรียบ แต่มักนำเสนอแง่มุมที่ดูแปลกตาไปกว่าดีไซน์เนอร์คนอื่นๆในฤดูกาลเดียวกัน


ซึ่งคอเลชั่นนี้ก็เช่นกัน "Prada"มีตัวชูโรงเด่นชัดคือผ้า"Lamé" ที่มีออกมาหลายสีและหลายแบบ ถ้าจะตีว่าเอาแฟชั่นจากยุค70มาดัดแปลงก็คงไม่ผิดนัก แต่ก็เป็นในแบบ"Prada" นี่ถ้าเป็น"Gucci"ทำคงดูชัดเจนกว่านี้ ผ้า"Lamé"เท่าที่ค้นประวัติเจอมีมาตั้งแต่ยุค20 แต่ที่ฮิตเห็นจนเกร่อเต็มเมืองก็คือในยุค70 ที่มีผลิตออกมาเป็นสินค้าแทบทุกอย่าง

Picture : Wallpaper , Fashion Mag