วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2553

TCDC : "Philip Treacy" in Bangkok


"Philip Treacy" @ TCDC 29 October 2010

* นี่คงเป็นงานที่ดิฉันเสียดายมากที่สุดในปีนี้ ที่ไม่ได้ไปดู*

Spring/Summer 2011 : Seoul Fashion Week "Men's Preview"

Spring/Summer 2011 : Seoul Fashion Week 10th Anniversary


วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Fall/Winter 2010 - 2011 : Juun J.'s Vest


"Juun J."มักทำความข้องใจให้ดิฉันอยู่เรื่อยๆ จากอะไร..? ก็..ก็...ไม่มีเงินซื้อไง..5..5..5 อืม..ม..ในรูปไม่ได้บอกคอเลคชั่น แต่ลงอยู่ในหนังสือ"Men's Health"ของเกาหลีเล่มเดือนนี้ก็น่าจะเป็นของ"Fall/Winter 2010 - 2011" ส่วนราคา..ไม่แพ้ง..ไม่แพง..แค่1,240,000วอน..ก็แค่34,100บาทเท่านั้น

Picture : Men's Health

วันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Spring/Summer 2011 : Siki Im


ถ้าชอบ.."Juun J."หรือ"Songzio" คงชอบอีกหนึ่งดีไซน์เนอร์เกาหลีชื่อ"Siki Im"ได้ไม่ยาก เพราะว่าเสื้อผ้าดู..เกาหลี้..เกาหลี "Siki Im"เป็นดีไซน์เนอร์เกาหลีที่เป็นแบบเดียวกับ"Richard Chai"หรือ"Eric Kim"เป็น คือเป็นคนเกาหลีที่มาเกิดนอกประเทศ "Siki Im"มาเกิดในเยอรมันแล้วมาทำเสื้อผ้าในอเมริกา แสดงว่า..ความเป็นเกาหลีนี้ช่างรุนแรงเหลือเกิน ขนาดไกลกัน..เสื้อยังออกมาแนวเดียวกัน..5..5..5


Picture : Models , GQ

วันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2553

หนังสือคู่มือเที่ยวเกาหลี


ดิฉันซื้อหนังสือคู่มือนำเที่ยวเกาหลีมาสองเล่ม เล่มนึงซื้อนานแล้วตั้งแต่ปี2551 เล่มที่สองเพิ่งซื้อเมื่อไม่กี่วันก่อน มีเพื่อนถามดิฉันว่า.."หล่อนไปเกาหลีมาตั้งหลายรอบแล้ว ซื้อมาอ่านทำไมอีก เสียดายตัง" แหม..ก็ดิฉันตั้งความหวังไว้ว่าชาวบ้านคงมีเรื่องอะไรดีๆที่เรายังไม่รู้มาเขียนเป็นหนังสือบ้าง และหนังสือทั้งสองเล่มนี้..ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง..ในทุกมุมมอง มาว่ากันทีล่ะเล่มดีกว่า

KOREA GUGGIG Guide เกาหลี กุ๊กกิ๊ก ไกด์ โดย พนิดา เอี่ยมศิรินพกุล

หนังสือมีน้ำหนักเบาพอที่จะพกไปไหนมาไหนได้ ถึงดิฉันจะไม่เคยอ่านหนังสือคู่มือนำเที่ยวเกาหลีที่ออกมาในท้องตลาดครบทุกเล่ม ดิฉันค่อนข้างมั่นใจว่าเล่มนี้แตกต่างอย่างมากมายและคง"เปรี้ยว"ที่สุดในหนังสือคู่มือนำเที่ยวเกาหลี

เพราะเท่าที่ผ่านตามา ไม่เคยเห็นหนังสือนำเที่ยวเกาหลีพูดถึงแฟชั่นในเกาหลีแบบเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้ น่าจะเป็นจากหลายสาเหตุ คือคนเขียนต้องอยู่เกาหลีนานพอสมควรและคงต้องมีใจกับการแต่งตัวและชอปปิ้งเป็นหลัก ไม่งั้นคงไม่สนใจเรื่องพวกนี้เพราะไม่ได้อยู่ในโปรแกรมทัวร์ทั่วไปหรือผู้ที่ขยันตามรอยละครไปตามเกาะ,รีสอร์ทอะไรพวกนั้น

ภายในเล่มนี้เน้นไปที่ย่านช้อปปิ้งในโซลเป็นหลัก มีการแนะนำร้านในแบบที่ไม่เคยเจอจากหนังสือเล่มอื่นเช่น"Boon the Shop"ร้านขายสินค้าไฮ-เอนด์แบบมัลติแบรนด์,"Ann Demeulemeester"ดีไซน์เนอร์ดังที่ร้านสาขาประจำกรุงโซลติดอันดับต้นๆในเรื่องของการออกแบบร้าน และร้านเล็กร้านน้อยที่น่าสนใจและหายากอีกหลายร้าน

หมายเหตุ - หนังสือเล่มนี้ไม่เหมาะกับผู้ที่ชอบตามรอยละคร,ตามรอยนักร้อง หรือเที่ยวเกาหลีแบบมีฟอร์แมทบังคับเช่นต้องไปเกาะนามิวันแรก,ไปรีสอร์ทสกีวันที่สอง,ช้อปปิ้งเมียงดงก่อนกลับ(เครื่องสำอางค์ล้วนๆ)

โซล คู่มือท่องเที่ยวเกาหลีใต้ด้วยตัวเอง โดย วิชญา บุณยเกตุ

ซื้อเพราะเดินเล่น,ซื้อเพราะไม่ได้ซื้อพ็อคเก๊ตบุ๊คนานแล้ว,ซื้อเพราะหน้าตาหนังสือดูดีและซื้อเพราะไว้ใจสำนักพิมพ์วงกลม หนังสือค่อนข้างหนักเมื่อเปรียบเทียบกับรายละเอียดที่ได้ หนังสือเหมาะกับผู้ที่จะเดินทางไปเกาหลีครั้งแรกแบบไม่มีเวลาและไม่มีอินเตอร์เนตที่บ้าน(ต๊าย..ปากร้าย)

ทำไมดิฉันเขียนแบบนั้น? ภายในเล่มนี้ดูคล้ายการรวบรวมข้อมูลจากหนังสือนำเที่ยวหลายๆเล่มที่มีแจกฟรีอยู่ในองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีที่สีลม รวมกับบางส่วนที่สามารถหาอ่านได้ทั่วไปจากบอร์ดที่แลกเปลี่ยนเรื่องราวเกี่ยวกับเกาหลีตามเวปบอร์ดท่องเที่ยว

ในเล่มช่วงต้นๆมีอะไรที่ดิฉันรับไม่ได้มากๆคือ"10 อันดับไม่ควรพลาดในโซล" ถ้าไปครบสิบอันดับที่กล่าวมา ไปกับทัวร์ซ่ะก็สิ้นเรื่องหมดทุกข์หมดโศกไม่ต้องไปเดินหา แต่ล่ะอย่างหนึ่งในสิบเรื่องมีเช่น.."ดูคอนเสิร์ท","เที่ยวโลเคชั่นถ่ายละคร"..และแม้กระทั่ง.."ชิมอาหารเกาหลีแกล้มกิมจิอันเลื่องชื่อ"..กล้าเขียนมากๆค่ะ

หมายเหตุ - เสียดายเงิน 260 บาทค่ะ และควรแก้หน้าปกจากคำว่า"โดย"เป็น"รวบรวมโดย"นำหน้าชื่อคนเขียนน่ะค่ะ

ป.ล. คนไทยไปเกาหลีด้วยหลายสาเหตุ,หลายจุดมุ่งหมาย ที่อ่านการวิจารณ์ผ่านไปนี้ก็ไม่ได้บอกว่าดิฉันถูกทั้งหมด แต่เล่มหลังเนี่ย..เสียดายเงินจริงๆ อ้อ..ทั้งสองเล่มที่กล่าวมาแผนที่ในเล่มใช้อ้างอิงกับถนนจริงไม่ได้หรอกค่ะ

จดหมายถึงพี่ชาย



พี่ชายค่ะ

ตอนนี้อุนโซกำลังเก็บเงินกลับไปหาพี่ชาย เมื่อวานเอาชุดนักเรียนคอซองมาลองใส่ดู ฟิตไปนิดเต่อไปหน่อยและรูดซิปไม่ขึ้น ส่วนจักรยานคันเก่าอุนโซลองขึ้นไปนั่งแล้วยางแตก..อานหัก..คงต้องซื้อใหม่ อีกไม่นานแล้ว..อุนโซจะได้กลับไปหาพี่ชาย

รักพี่ชายเสมอ

อุนโซ

Spring/Summer 2011 : Korean Men's Designer

D-GNAK
Designer : Dong Jun Kang

นอกจาก"Juun.J"และ"Songzio"ที่ปารีสแล้ว ยังมี"D-GNAK"และ"General Idea"ที่เพิ่งมีโชว์นอกประเทศไปหมาดๆมาให้ดูด้วย โดย"D-GNAK"นำผลงานไปแสดงในงาน"London Fashion Week" และ"General Idea"กับผลงานใน"New York Fashion Week" ซึ่งทั้งหมดก็จะนำผลงานกลับมาโชว์ที่งานโซลแฟชั่นวีคในซีซั่นนี้ด้วย

General Idea
Designer : Bumsuk Choi

Picture : Vogue

วันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Spring/Summer 2011 : Louis Vuitton


ถ้าถามว่าแบรนด์ดังแบรนด์อะไรที่ไม่มีความเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด คงไม่ต้องคิดนานเพราะมีอยู่แบรนด์เดียว..อ้อ..ไม่ใช่สิ มีดีไซน์เนอร์อยู่คนเดียวที่ทำแบบนี้ได้นั่นคือ.."Marc Jacobs"


คราวนี้"พี่มาก"พาดีไซน์เนอร์หลากหลายแบรนด์มาพาเหรดกันอยู่บนรันเวย์ ตั้งแต่.."Yves Saint Laurent","Léonard","Krizia" มีสื่อบางสื่อเขียนตามโผยรึปล่าวไม่รู้ บอกว่าแรงบันดาลใจของ"พี่มากในงานนี้มาจาก"Kansai Yamamoto" อูว์..ว์..ส่วนไหน?..บริเวณใด?..กรุณาทำลูกศรชี้ด้วย..ดิฉันมองไม่เห็น เห็นแต่สามแบรนด์แรกที่กล่าวมาเต็มไปหมด


แต่"Marc Jacobs"นั้นสามารถทำให้"ความไม่เป็นตัวของตัวเอง"กลายมาเป็น"ความเป็นตัวของตัวเอง" อืม..ม..งงไหมค่ะ? ง่ายๆถ้าเราเห็นแฟชั่นโชว์แบรนด์อะไรซักอย่างแล้วในโชว์นั้นมีชุดเหมือนแบรนด์โน้นแบรนด์นี้เต็มไปหมด อย่างน้อยๆเรามั่นใจได้ว่านั่น..ต้องเป็นผลงานของ"Marc Jacobs"แน่ๆ


คนวิจารณ์มักไม่ได้ทำเสื้อผ้า,คนทำเสื้อผ้ามักไม่ได้วิจารณ์ แต่ที่แน่ๆดิฉันคงให้เพลงนี้กับโชว์ของ"Louis Vuitton" เพราะมันเข้ากั้น..เข้ากัน..กว่าเพลงจริงที่ใช้เดินอยู่(5..5..5) เพราะมันไม่ฟังแล้วขัดแย้งตามเจตนาที่จะให้"เก๋ๆ" แต่เป็นเพลงตามเสื้อผ้า..ตามสไตล์..ตามสิ่งที่เห็นและรู้สึก ถึงแม้"ไม่เก๋","ไม่เอกเทศ"..แต่เข้ากันไม่เชื่อลองฟังดู

01-Queen Of Chinatown by Foxy Lady

Picture : Vogue , Fashion Mag

Spring/Summer 2011 : Jean-Charles de Castelbajac


ตอนแรกเขียนเรื่องลายป่าแบบรวมๆ อ่านแล้วไม่เข้าท่าเลยลบซ่ะ มาแยกเขียนเป็นแบรนด์ๆดีกว่า รายแรกขาประจำของบล็อคนี้ที่ไม่มีคงไม่ได้ "Jean-Charles de Castelbajac"เอาลายพรางมาเล่นติดๆกันสองซีซั่นแล้ว แต่ก็ไม่ได้เหมือนกัน..เห็นไหมว่าทางออกของแฟชั่นยังมีอยู่


คอเลคชั่นนี้ของ"Jean-Charles de Castelbajac"ถ้าต้องจัดอันดับถูกใจของปารีส แบรนด์นี้คงไม่หลุดโผหนึ่งในห้าของดิฉัน งานคราวนี้ของ"Jean-Charles de Castelbajac"ผสมเรื่องราวของฝรั่งเศสและอาฟริกันเข้าด้วยกัน(จริงๆมันไม่น่าจะเข้ากันได้เลยน่ะ)

Jungle DJ & Dirty Kate (1978)

แต่สิ่งนึง..ทำไมก็ไม่รู้ ดูคอเลคชั่นนี้ของ"Jean-Charles de Castelbajac"แล้วคิดถึงเพลง"Jungle DJ"ของวง"Kikrokos"ขึ้นมา ทั้งๆที่ไม่มีอะไรเกี่ยวกัน ลองฟังดูค่ะ

   (A1) Kikrokos - Jungle Dj Suite by Foxy Lady

Picture : Vogue , Dazed Digital , Rate Your Music

วันพุธที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Spring/Summer 2011 : Alexander McQueen


โชว์ปารีสคราวนี้คงไม่มีโชว์ไหนคนจับตามองเท่ากับโชว์ของ"Alexander McQueen" เพราะนี่เป็นโชว์แบบเต็มตัวครั้งแรกของ"Sarah Burton" หลายคนว่า..โอเค..หลายคนว่า..ใช้ได้ แต่ที่ถึงขนาดกล่าวออกมาว่า.."บราโว"นั้นดู"ตอแหล"ไป สำหรับดิฉัน"McQueen"ที่คุมโดย"Sarah Burton" ดูซีดเซียว,ไร้อารมณ์..และขาดเสน่ห์ของหน้าร้อนที่ควรจะมี

Picture : Fashion Mag

วันอังคารที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Greyhound : 30th Anniversary


Greyhound : 30th Anniversary

สถานที่ : หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

วัน : อังคารที่ 26 ตุลาคม 2553

เวลา : 18.00 น.

*หมายเหตุ : ควรเช็คให้ดีก่อนไปร่วมงาน ว่า..งานปิดหรืองานเปิด ต้องมีบัตรไหม? เพราะงานแบรนด์ไทยโดยส่วนมากมักเป็นงานภายในแบบสูติ แบบว่า..สำหรับในกลุ่มเพื่อนๆกันเอง เราแปลกหน้าไป(ถึงแม้จะเป็นลูกค้า) อาจไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีนัก จึงเตือนมาเพื่อทราบ

Spring/Summer 2011 : Red & Black

Haider Ackermann

Balmain

แดง,ดำ..ดำ,แดง..คู่สียอดฮิตที่หายไปนาน แต่การกลับมาคราวนี้คงไม่สามารถเบียดสีเจิดจ้ายอดฮิตประจำฤดูกาลนี้อย่างส้ม,เขียว,ม่วง(น้ำเงินสด?)ลงไปได้

ป.ล. ช่วงนี้บล็อคลงรูปยากกว่าที่เคยเป็น เปลี่ยนระบบได้วันเว้นวัน การอัพบล็อคคงช้ากว่าเดิมเพราะยากเย็นเข็ญใจในการลงรูป

Picture : Fashion Mag , Vogue