วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Spring/Summer 2013 : "An American in Paris"

3.1 Phillip Lim

จริงๆ"Alexander Wang"เอาไปโชว์ที่ปารีสทั้งสองไลน์คือ"Alexander Wang"และ"T by Alexander Wang" แต่ดิฉันว่า.."T by Alexander Wang"มันดูธรรมดามากเกินไปหน่อย..ไม่หน่อยอ่ะ..มากเลยทีเดียว ตอนแรกที่ดูของ"Phillip Lim"ก็แอบเมาท์ในใจเหมือนกันว่า.."Dolce&Gabbana"ซีซั่นที่แล้วแบบดูง่ายขึ้น..5..5..5 แต่เมื่อเห็นภาพไกล้ๆก็เลย..เออๆ..ก็สวยดี..โดยเฉพาะลายพิมพ์

Alexander Wang

Picture : Style

วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Spring/Summer 2013 : Paris Men's "Hot Short !"

Mugler

Raf Simons

Picture : L'Uomo Vogue

วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Spring/Summer 2013 : Valentino / Carven / Alexis Mabille

Valentino


มาๆ..ไปอิตาลีกับชาวบ้านเขาบ้าง แต่ก็ยังคงช้าตามประสาอีกตามเคย..ก็บอกแล้วไงว่า..แก่แล้ว..แก่แล้ว..5..5..5 มาเริ่มกันที่งาน"Pitti Uomo"ครั้งที่82ที่เมือง"Florence" ที่มีทั้งดีไซน์เนอร์ขาประจำและดีไซน์เนอร์รับเชิญที่ผลัดเปลี่ยนไปทุกฤดูกาล โชว์มีหลายโชว์..หารูปง่าย..หารูปยาก..ไม่เท่ากัน เอาที่คนรู้จักเยอะสุดก่อนแล้วกัน จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก.."Valentino"


บางคนว่าเสื้อผ้าในโชว์นี้ดูเด็กลง..แต่ดิฉันว่าเหมือนเดิม..5..5..5 มันคงดูแล้วตามกระแสการตลาดและเข้าใจง่ายมากกว่า..แต่คงไม่ใช่เด็กลง เสื้อผ้านั้นดิฉันไม่เคยเกลียดชังแบรนด์นี้อยู่แล้ว คราวนี้ก็กลางๆน่ะ..แต่ที่น่าสนใจคือกระเป๋าและรองเท้าที่น่าจะขายดีเมื่อวางตลาดจริง เพราะถึงจะแพงแต่ก็ลูกเล่นแพรวพราว..ใส่คู่เดียว.."เอาอยู่"..5..5..5 ที่ชอบมากคือด้านหลังของรองเท้าทุกคู่จะมีหมุดสีเข้ากับตัวรองเท้าที่ไม่แน่ใจว่าทำจากยางแบบตัวรองเท้าหรือเป็นโลหะ

Carven


"Carven"แบรนด์เก่าแก่..ที่มาเปลี่ยนยกเครื่องแบรนด์ใหม่เมื่อไม่นานมานี้ จนหลายสื่อจับตามองผลงานจากฝีมือของดีไซน์เนอร์ที่ชื่อ"Guillaume Henry" ดิฉัน..ก็ไม่เกลียด"Carven"น่ะ แต่คอเลคชั่นนี้..ถ้าไม่มีป้ายแปะไว้..ร้อยทั้งร้อย..คงนึกว่าเป็นคอเลคชั่นของ"Paul & Joe" เพราะทั้งคอเลคชั่น..ให้ความรู้สึกแบบนั้น..ไม่ว่าจะโครงสร้าง,สีหรือลาย ว่าแต่ไอ้ลาย.."Paisley"เนี่ย..มันจะฮิตในร้อนหน้าใช่ไหม?..5..5..5

Alexis Mabille


โชว์ของ"Alexis Mabille"คราวนี้เหมือนมีคนดูเท่าที่เห็นในรูป มันจะแย่ขนาดนั้นเชียวเหรอ? แต่มองภาพจากมุมกว้างก็แล้ว..อะไรก็แล้ว เหมือนคนดูมีเท่าที่เห็นจริงๆ..รูปน้อย..สื่อของงานเองก็ลงรูปโชว์ไม่ครบ เป็นแบรนด์เดียวที่ลงรูปไม่ครบ..อันนี้งง? เสื้อคอเลคชั่นนี้..ทำให้ไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นคอเลคชั่นเต็มรึปล่าว เพราะในตารางโชว์ที่ปารีสก็ยังมีหมายกำนดการโชว์อยู่ นั่นคงต้องดูกันอีกที

Picture : Zimbio , Pitti Immagine , L' Uomo Vogue , Fashion Mag

Spring/Summer 2013 : J.W.Anderson / Richard Nicoll

J.W.Anderson


เห็นไหมลอนดอนเดินเสื้อผ้าผู้ชายจบไปตั้งแต่วันอาทิตย์ที่17แล้ว..ใช่อาทิตย์ที่17แล้ว..5..5..5 จนชาวบ้านรอบๆตัวเขาเขียนเรื่องโชว์มิลานกันหมดแล้ว..ดิฉันยังไม่จากลอนดอนไปไหน..5..5..5 แก่แล้ว..แถมยังเรื่องมากก็แบบนี้แหละ..ทั้งอืดอาด..และไม่ทันสมัย..แถมยังตกใจตื่นเต้นกับอะไรยาก มีแค่ชอบ..กับไม่ชอบ อ่านบล็อคนี้คงต้องทำใจ..5..5..5

โชว์ของ"J.W.Anderson"ทำให้ดิฉันนึกถึง.."Miu Miu"ยังไงไม่รู้ นั่นหมายความว่า.."Miu Miu"ของผู้หญิงแล้วมาอยู่บนนายแบบ..5..5..5 คำว่า"นึกถึง"นั้นดีไซน์เนอร์ไทยที่"สันหลังหวะ"บางคนคิดว่า..เป็นคำเดียวกับการลอกเลียนหรือก๊อปปี้แบบเสื้อ..จริงๆมันคนล่ะความหมายกัน ก็..แหม..ความผิดมันติดตัวมาตั้งแต่เด็กจนแก่ ใครว่าอะไรนิด..อะไรหน่อย..ก็กลัวว่าคนอื่นจะรู้ความจริง..5..5..5 ว๊าย..มันไม่เกี่ยวกับ"J.W.Anderson"นี่นา..มากลับมาที่โชว์ของ"J.W.Anderson"..5..5..5 สวยน่ะ..ดิฉันชอบ..คือมันเหมือนเสื้อผู้หญิงที่ใช้โครงสร้างของผู้ชายมาทำ

Richard Nicoll


เสื้อผ้าในโชว์ของ"Richard Nicoll"น่าจะเรียบที่สุด..ดูธรรมดาที่สุดในจำนวนโชว์จากลอนดอนทั้งหมดที่เขียนถึง แหม..ก็เสื้อผ้ามันมีหลายอย่าง..สำหรับคนหลายประเภท..หลายแนว มีตั้งแต่เข้าใจยากๆ..ไปจนถึงเข้าใจง่ายๆ ก็เพราะคนมีหลายแบบไง ถ้าจำไม่ผิดนี่น่าจะเป็นคอเลคชั่นเสื้อผ้าผู้ชายคอเลคชั่นแรกของ"Richard Nicoll" มันเรียบและพื้นฐานน่ะ..แต่มันไม่น่าเบื่อ..ที่มันไม่น่าเบื่อก็เพราะรายละเอียดบนเสื้อผ้า และอย่างที่บอกโชว์ของดีไซน์เนอร์อังกฤษมันน้อยมาก..คือน้อยชุด อย่างโชว์ของ"Richard Nicoll"นั้นมีแค่19ชุด

 Picture : Fashion Mag

วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2555

วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Goodbye..D&G


เช้าวันนี้..วันเริ่มต้นการทำการตลาดของ"Fall/Winter 2012-2013"..และยังเป็นการเริ่มต้นโชว์ของฤดูกาลใหม่อย่าง.."Spring/Summer 2013" ทาง"Dolce&Gabbana"..ได้ลบลิงค์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์"D&G"..ออกไปจากหน้าเวปไซท์หลักของแบรนด์..เป็นการปิดแบรนด์อย่างเป็นทาง ใจหาย..ก็เท่านั้นเอง..ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น

D&G

Designed By : Stefano Gabbana 1994 - 2012 , Domenico Dolce 1994 - 2012
Shows In :  Milan
Collection Types : RTW
Similar Clientele : See by Chloé
Styles & Tags : Commercial Success , Italian

D&G Menswear

Designed By : Stefano Gabbana 1994 - 2012 , Domenico Dolce 1994 - 2012
Shows In : Milan
Collection Types : Menswear
Similar Clientele :  Dsquared2
Styles & Tags : Commercial Success , Italian

Picture : Dolce&Gabbana , Details : NY Mag

วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Cruise 2013 : Dsquared2


มา..มา..ต่อที่งาน"รีเมค"กันอีกสักงาน ก็บอกแล้วไง..ว่าแฟชั่นมันไม่ไปไหน..อยู่แต่ว่าเคยเห็นรึปล่าว..แล้วเป็นคนขี้ตกใจไหม..แบบว่าเห็นอะไรนิด..อะไรหน่อย..ก็ตื่นเต้นไปเรื่อย..5..5..5 สมัยนี้เขาไม่ถือกันแล้วการเอางานคนอื่นมาทำใหม่..ทั้งเหมือนแบบลอยๆมาและแบบปรับเปลี่ยนอย่างใช้ฝีมือ ต่างไม่ผิดอะไรกันนัก..ดีไม่ดีอันที่ลอยๆมาทั้งดุ้นอาจได้รับการยกย่องว่า..เป็น"อัจฉริยะ"..5..5..5


คอเลคชั่นนี้ทั้งพี่น้องสองสาวก็ไม่ได้ปฎิเสธแต่ยอมรับแบบอ้อมๆว่า.."คือได้แรงบัลดาลมาจากภาพนางแบบในแฟชั่นเซทนึง..น่ะฮ้า" แหม..นี่ถ้าใครยังดูไม่ออกอีกว่ามาจากแบรนด์อะไร..น่าจะไปโดดให้เรือหางยาวทับซ่ะ..5..5..5

แฟชั่นเซทนี้..(หมายความว่า"ต้นฉบับ")เมื่อนำออกแสดงทำให้เกิดความฮือฮาขึ้นในวงการแฟชั่นในยุคนั้น เพราะนำเอาแฟชั่นจากสองกลุ่มให้มาบรรจบกัน..ชนกันโครมคราม นี่แหละทำให้.."ป้า"แกถึงอยู่ทนแดด..ทนฝนมาได้ถึงยุคปัจจุบัน เพราะเมื่อสมัยที่"ป้า"แกยังสาวกว่านี้..แกสร้างปรากฎการใหม่ๆให้แก่วงการแฟชั่นมาโดยตลอด พอถึงตอนนี้..ยุคนี้..เลยน่าจะเป็นช่วงที่แกพัก..5..5..5

Picture : Vogue