Capsule 2013 : Loewe X Junya Watanabe Comme des Garçons's Wallet

อย่างที่เขียนไว้ในบทความที่แล้วว่าสินค้าในคอเลคชั่นนี้จะมีการ"Pre-Order"กันในปลายเดือนนี้ เมื่อวานนี้ได้มีการลงรูป"Wallet"(กระเป๋าสตางค์นั่นแหละ)ในบางเวปไซท์ แต่รายละเอียดก็ไม่มีอะไรคืบหน้าเช่นขนาดหรือราคา คือมีแต่รูป..แล้วรายละเอียดที่ลงประกอบก็ซ้ำคือวนไปวนมา..5..5..5 คือลงแต่รูปก็ได้นะ..ถ้ารายรายละเอียดมันชำรุดขนาดนั้น..5..5..5

Picture : Fashionsnap , Fucking Young!

Cruise 2014 : Mirrored Sunglasses

(Left) Christian Dior , (Right) Just Cavalli

Picture : Style

Inspiration : Gio Ponti

(Left) Gio Ponti's Rug 1954 , (Right) Givenchy : Pre-Fall 2013-2014

Piccture : Yatzer , Style

Cruise 2014 : Givenchy

New York : จริงๆแล้วทาง"Givenchy"..ไม่ใช่ซิ..ทาง"Riccardo Tisci"ได้ลงรูปคอเลคชั่นนี้บางส่วนไปตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มาถึงเช้าวันนี้เลยไม่มีอะไรแปลกใจเท่าใดนัก ที่ว่าไม่แปลกใจคือทั้งหมด..5..5..5 ลาย,รูปทรงและสียังคงเป็นสัญลักษณ์ของ"Riccardo Tisci"ที่ใช้อยู่ประจำ อันได้แก่..การใช้ลายและสีเก่าจากคอเลคชั่นที่แล้ว ทั้งจาก"Spring/Summer 2013"และ"Fall/Winter 2013-2014"

Courtesy of Givenchy

Capsule 2013 : Loewe X Junya Watanabe Comme des Garçons

Tokyo : ความร่วมมือเฉพาะกิจของ"Loewe"กับ"Junya Watanabe"(Comme des Garçons) ที่เพิ่งมาเดินเอาที่โตเกียวในวันนี้ เป็นการยากที่จะรักษาภาพลักษณ์ของทั้งสองแบรนด์ที่ต่างกันในแนวคิดไปคนละทาง โดยไม่ทำให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของแบรนด์เสียหาย นี่ดิฉันไม่ถือว่าเสียหายนะ(5..5..5) มันดูดี..ดีกว่าคอเลคชั่นเฉพาะกิจของ"Punk : Chaos to Couture"อะไรนั่นอีก ตรงที่มันไม่ได้ยัดเยียดอะไรที่"ไม่ใช่"เข้าไปในรูปแบบที่มันที่มัน"ไม่ใช่" เหมือนยัดสี่เหลี่ยมเข้าไปในวงกลม งงรึปล่าว?..ช่างมันเถอะ บล็อคนี้ไม่เคยต้องการคำตอบ..5..5..5 โดยเสื้อผ้าคอเลคชั่นนี้จะวางให้"Pre-Order"กันในปลายเดือนพฤษภาคมนี้ทางเวปไซท์ของ"Loewe" และจะมีวางจำหน่ายทั่วไปใน 40 สาขาทั่วโลกเดือนกันยายนปีนี้

ป.ล. มีการเปลี่ยนชื่อคอเลคชั่นเล็กน้อยเพื่อให้ถูกต้องคะ

Picture : Fashionsnap

Stradivarius : Mirrored Sunglasses

Mirrored Sunglasses 690 บาท

Stradivarius : Central Lardprao

Bangkok : เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา(เห็นไหม..ช้าอีกแล้ว..5..5..5)ได้มีการเปิดร้าน"Stradivarius"(อ่านว่า"สตรา-ดิ-วา-ริ-อุส)สาขาใหม่ขึ้นที่ชั้น 1 เซ็นทรัลลาดพร้าว เป็นสาขาที่ 3 ของร้าน"Stradivarius"ในกรุงเทพ จริงๆถ้าให้เขียนร้านอย่าง"Stradivarius"หรือว่า"Pull&Bear"ก็คือการแยกประเภทสินค้าของ"Zara"ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายแบบแยกย่อย เหมือนทำสงครามแบ่งการโจมตีสถานที่สำคัญๆออกเป็นหลายๆจุด(5..5..5)

คราวนี้นอกจาก"Stradivarius"จะเปิดสาขาใหม่ในรูปแบบการตกแต่งใหม่แล้วยังเป็นการเปิดตัวสินค้าของ"Spring/Summer 2013"อย่างเป็นทางการอีกด้วย สินค้าของ"Stradivarius"นั้นแม้จะอยู่ในกลุ่มที่คล้ายกับ"TRF"ใน"Zara"แต่ก็มีราคาที่ค่อนข้างถูก..สะดวกซื้อประหยัดทรัพย์..5..5..5 ด้วยราคาและวัสดุที่สมเหตุผลที่มาพร้อมกับเทรนด์ที่อยู่ในความต้องการของตลาด โดยราคาของเสื้อยืดจะอยู่ที่490-1490บาทส่วนกางเกงจะอยู่ที่ราคา890-1990บาท ที่พิเศษสำหรับสาขานี้นำมาใช้ที่แรกคืออุปกรณ์ที่มีชื่อว่า"Calling System" โดยมีลักษณะคล้ายนาฬิกาข้อมือที่สามารถใช้เรียกพนักงานขายจากห้องลองในขณะลองเสื้อผ้าและต้องการจะเปลี่ยนไซส์

Calling System

ขอขอบคุณ : Gagan (Thailand)

Picture : Foxy Lady

Cruise 2014 : Christian Dior

Monaco : ผลงานคอเลคชั่น"Cruise"ครั้งแรกของ"Raf Simons"ในแนวถนัด งานเทคนิคผสมหลายๆอย่างแบบนี้จริงๆก็น่าจะเรียกได้ว่าเป็นงานแบบ.."Avant-Garde" "Avant-Garde"ในแบบ"Minimal"..เพราะรูปทรงโครงสร้างเสื้อผ้าของ"Raf Simons"มักเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยงานเทคนิคแบบต่างๆที่ยากจะบอกได้ด้วยตาปล่าวตราบใดที่ยังไม่เห็นชิ้นงานไกล้ๆ นี่คงเป็นอีกครั้งที่"Christian Dior"เปลี่ยนไป..ไม่ว่าใครจะชอบหรือไม่..ก็ตาม

Picture : Style , Zimbio

Capsule 2013 : Versus Versace

New York : คอเลคชั่นสมัยนี้ดูวุ่นวายเนอะมีทั้งคอเลคชั่นเล็ก..คอเลคชั่นน้อย มีทั้งเดินแล้วค่อยขายไปจนถึงเดินแล้วขายเลยอย่าง"Capsule" เพราะ"Capsule"ถือว่าเป็นคอเลคชั่นย่อย..แบบย่อยมาก..ถึงย่อยที่สุด ทำมาเพื่อขาย..ส่วนจะขายได้ไหม?..นั่นอีกเรื่องนึง..5..5..5 นี่เป็นคอเลคชั่นแรกของการร่วมกันทำงาน(รึปล่าว?..5..5..5)ระหว่างป้าโดนัท"Donatella Versace"และ"J.W. Anderson" โดยจัดโชว์ขึ้นที่ชั้น 4 ของร้าน"Versace"ในย่าน"Fifth Avenue"กรุงนิวยอร์คเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่เพิ่งผ่านมา อย่างที่เขียน..นี่เป็นความร่วมมือระหว่างป้ากับหลาน ก็เหมือนเอาข้าวแช่ไปให้ร้าน"After You"ทำ..5..5..5 งานบางชิ้น..เข้าใจนะว่ามันเป็น"สัญลักษณ์" แต่เปลี่ยนรูปทรงบ้างก็ได้ หรือของเก่าทำมาเยอะ..ใช้ไม่หมด?..5..5..5 ส่วนสีถ้าพ้นนิวยอร์คออกมาแม้แต่ก้าวเดียวน่าจะกลายสภาพเป็น"สต๊อก"ทันที..5..5..5 ไม่ได้แช่ง..สีแบบ"Fluorescent"มันยังใช้ได้นะ..แต่ไม่ใช่เฉดแบบนี้ ถ้าจะขายเฉดสีแบบนี้คงต้องหา"โดเรมอน"ให้เจอก่อน แล้วลงลิ้นชักขึ้นเครื่องข้ามเวลาย้อนกลับไปหาที่ขาย..อาจจะหาที่ขายได้ ส่วนสไตล์ของ"J.W. Anderson"ที่ทำเสื้อผู้หญิงไซส์ใหญ่(5..5..5)น่าจะขายได้ในกลุ่มเล็กๆกลุ่มนึง แต่ที่น่าจะใช้ยังชีพและเป็นสินค้าที่.."อาจจะ"หรือ"น่าจะ"ขายได้คือพวกเครื่องประดับ..กระเป๋า..เคสไอโฟน..เท่าที่เห็นนะ..ว่าน่าจะขายได้..5..5..5

Picture : Zimbio , WWD

The Great Gatsby

เป็นการยากที่หนังใหม่จะไม่โดนนำไปเปรียบเทียบกับหนังเก่า โดยเฉพาะหนังที่สร้างจากบทประพันธ์เดียวกันและไม่ได้เปลี่ยนแปลงหรือดัดแปลงเนื้อเรื่อง เนื่องจากนี่ไม่ใช่บล็อควิจารณ์หนัง(5..5..5) อีกทั้งไม่มีความรู้ทางด้านหนังอย่างเป็นชิ้นเป็นอันอีกเช่นกัน ฉะนั้นบทความนี้คงไม่ใช่การวิจารณ์..แต่เป็นความเห็นส่วนตัว(แหม..ก็หลีกเลี่ยงนั่นแหละ..5..5..5)

หนังเรื่อง"The Great Gatsby"แม้จะโดนสร้างมาหลายครั้งแต่ไม่มีครั้งใด(อาจจะรวมถึงครั้งนี้ด้วย..5..5..5)ที่สร้างปรากฎการในโลกแฟชั่นได้มากเท่ากับของปี1974 เพราะอย่าลืมว่าสมัยก่อนในปี1974ยังไม่มีการสื่อสารแบบรวดเร็วและสร้างกระแสแบบสมัยนี้ หนัง"The Great Gatsby"ยังสามารถสร้างกระแสในโลกแฟชั่นได้นาน..หลายปีตั้งแต่หนังออกฉายไปจนถึงปลายยุค70..นั่นคือนานมาก จริงๆหนัง"The Great Gatsby"เวอร์ชั่นปี1974ไม่ได้เน้นไปที่ฉากงานปาร์ตี้แบบของเวอร์ชั่นปี2013ที่กำลังฉายอยู่ แต่ของปี1974นั้นเน้นภาพโดยรวมของเสื้อผ้านักแสดงทั้งเรื่อง ดิฉันชอบงานของ"Baz Luhrmann"นะคือฉูดฉาดเยอะล้นและร่วมสมัย ว่ากันตามจริงของปี1974ก็ร่วมสมัยนะ..คือร่วมสมัยในยุค70 แต่มีบางอย่างในนั้นที่ทำให้คนคล้อยตามเป็นเนื้อเดียวกับหนังไม่ดูหลุดเป็นชิ้นๆเหมือนของ"Baz Luhrmann" โดยเฉพาะผม..ดิฉันเกลียดผมตัวแสดง(ทุกตัว..5..5..5)ในเวอร์ชั่นของ"Baz Luhrmann" มันดูเป็นธรรมชาติมากไป..คือมันดูเป็นผมจริงๆมากไปตัดและขัดกับเสื้อผ้าที่ระดมประโคมจนเต็มเหยียด แล้วเสื้อผ้าที่ออกแบบร่วม(ต้องใช้คำนี้นะ)โดย"Catherine Martin"และ"Miuccia Prada"ดูซ้ำ คือหมายความว่าถ้าดูแบบจับผิดจะเห็นว่าชุดมีเพียงไม่กี่แบบแล้วเปลี่ยนสี(ที่ไม่ได้ต่างกันเยอะ..5..5..5)และวัสดุ(ที่ก็ไม่ได้ต่างกันเยอะอีกเช่นกัน)

อย่างที่เขียนดิฉันชอบงานของ"Baz Luhrmann"นะ แต่ถ้าให้เลือกมันก็เปรียบได้เหมือนกับอาหารของ"Baz Luhrmann"นั้นอร่อยนะ..แต่มันรสจัดและเลี่ยนมากไป ส่วนของปี1974ที่กำกับโดย"Jack Clayton"นั้นเหมือนปรุงจากวัตถุดิบที่สดใหม่โดยรสชาตินั้นได้มาจากตัววัตถุดิบเอง และที่สำคัญมีไขมัน,สีผสมอาหารและผงชูรสน้อยกว่าของ"Baz Luhrmann"..5..5..5

Picture : IMP Awards

Foxy Lady 5th Anniversary T-Shirt

แจกเสื้อยืดครบรอบ 5 ปีของบล็อคนี้คะ จริงๆบล็อคนี้ครบรอบ 5 ปีไปตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา ช้าไปนิดด้วยเพราะหลายสาเหตุ เจ้าของบล็อคช้า,ช่างพิมพ์ช้า,ช่างเย็บช้า..ฯลฯ..5..5..5 จนเสื้อมาเสร็จเอาเดือนนี้..เฮ้อ..อ..ต้องโทษตัวเองที่ไม่วางแผนล่วงหน้า เสื้อครบรอบ 5 ปีนี้ไม่ได้ทำเยอะนัก โดยมีแค่เพียง 55 ตัว(แหม..ก็ครบ 5 ปี..5..5..5) ใครที่มีความประสงค์จะอยากได้เสื้อนี้ให้ส่งชื่อจริงและที่อยู่โดยละเอียดมาทางอี-เมล์"foxylady1963@gmail.com"คะ เสื้อจะโดนส่งผ่านทาง"EMS"สามารถตรวจสอบสถานะของพัสดุได้คะ

Foxy Lady 5th Anniversary T-Shirt  : Free T-Shirt (Only 55 Pieces). Only You Send Your Name and Address to Me by E-Mail : foxylady1963@gmail.com

รายละเอียด : เสื้อยืดเนื้อฝ้ายแขนสั้นสีดำขนาดตามที่ระบุ(5..5..5) พิมพ์ด้วยสีขาวและฟลอย์ทอง ไม่ควรซักด้วยน้ำยาฟอกผ้าขาว และควรกลับด้านซัก เช่นเดียวกับเวลารีดควรรีดด้วยไฟอ่อนจากด้านในเท่านั้นคะ

Details : Black Cotton-Jersey Short Sleeve T-Shirt, Metallic Gold Foil and White Print at Chest

Dazed & Confused : June 2013

Daft Punk vs Giorgio Moroder by Hedi Slimane

Daft Punk

Giorgio Moroder

Picture : Dazed Digital

Inspiration : Art Deco

Paris : Le Café Français

New York : Bar Oppenheimer

Lala : Doktor & Misses

Picture : Superfuture , Wallpaper

Saint Laurent : Paris's Flagship Store

นี่เป็นร้าน"Yves Saint Laurent"ยุคใหม่..ยุคฝีมือ"Hedi Slimane" เป็นร้านแบบที่เรียกว่า"Flagship Store"ความสูง 2 ชั้นที่มีเนื้อที่ถึง 9,700 ตารางฟุต ที่ว่ากันว่า"Yves Saint Laurent"สาขานี้ที่ปารีสคือสาขาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ส่วนจะขายดีที่สุดในโลกไหม? คงต้องรอดูกันต่อไปอีกสักพัก

Picture & Details : Vogue , WWD

Foxy Lady's Diary : Pop Trash

Original Picture : Ssense

Opening Ceremony : Tokyo's Flagship Store

ดิฉันค่อนข้างเฉยๆคือไม่ได้เกลียด..แต่ก็ไม่ได้ตื่นเต้นกับงานของ"Humberto Leon"กับ"Carol Lim"ที่ออกแบบให้กับ"Kenzo" คือถ้าจะเขียนไปคนที่ชอบงานของสองคนนี้คงเกลียดดิฉัน..5..5..5 และเพิ่มจำนวนคนที่ไม่ชอบขี้หน้าดิฉันให้มากขึ้น..แต่นั่นดิฉันก็..ไม่ได้ใส่ใจเช่นกัน..5..5..5 แต่ไม่ยากเลยถ้าอยากให้เกิดประเด็นนั้นขึ้น..แค่ถามว่าอะไรที่ทำให้รู้ว่านี่คือผลงานของสองคนนี้..มีใครตอบได้ไหม? แหม..แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องของบทความนี้ นี่เป็นร้านสาขาใหม่ของ"Opening Ceremony"ที่ย่าน"Omotesando"กรุงโตเกียว จะบอกว่าชอบทั้งร้าน..ก็ไม่ใช่..ชอบรูปทรงการตกแต่งเมื่อมองจากภายนอก แต่ที่ชอบมากๆคือบันไดส่วนหนึ่งภายในร้านที่ทำให้นึกถึงผลงานของ"Roy Lichtenstein"ผสมกับงานตกแต่งที่เป็นที่นิยมในช่วงยุค80

Picture : Superfuture , Highsnobiety , WWD , Opening Ceremony

T Magazine : Summer 2013

"Too Tough to Handle"คือชื่อแฟชั่นเซทปกของ"T Magazine"ฉบับ"Summer 2013" แฟชั่นไม่ว่ามันจะบนรันเวย์,แคตวอร์คหรือในหนังสือมันมักจะต้องทำให้สวยเกินจริง(หรือทั้งดูน่าเกลียดและน่าขำขันเกินจริง..5..5..5) เพราะมันคือการดูเพื่อขายความคิดไม่ใช่ดูเพื่อตัดสินใจในการซื้อสินค้าชิ้นต่อชิ้น ไม่งั้นคงไม่ต้องมีการเปิดโชว์รูมเพื่อให้สื่อและบายเออร์เข้าไปดูสินค้าหลังจากโชว์เสร็จ นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ว่า..ไม่ต้องสงสัยว่า.."ทำไมสระว่ายน้ำ ไม่มีน้ำ?"(5..5..5) หรือ.."เราใส่"Biker Jacket"กับชุดว่ายน้ำจะดีเหรอ?"(5..5..5)

Picture : T Magazine

Cruise 2014 : Chanel

Singapore : คงไม่มีมุมจากกล้องใดของสื่อไหนที่สร้างความเสียหายและขบขันของโชว์"Chanel"คอเลคชั่นนี้ได้เท่ากับของช่างภาพที่มีชื่อว่า"Desmond Wee"จากสิงคโปร์ โดยเฉพาะภาพในช่วง"Finale"ที่ดูสับสนวุ่นวายขาดระเบียบและมารยาทเกินกว่าที่โชว์ครั้งใดๆของ"Chanel"จะเคยมีมา..5..5..5

Picture : The Straits Times