วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Gareth Pugh in Thierry Mugler !


ภาพของ"Gareth Pugh"ในชุดของ"Thierry Mugler" จากงานนิทรรศการครบรอบ40ปีของห้าง"Browns"ในลอนดอนเมื่อปี2010 แจ๊คเก็ตสีม่วงมาจากคอเลคชั่นชื่อ"Les Infernales"ฤดูกาล"Fall/Winter 1988-1989" ส่วนกางเกงทำจาก"PVC"สีดำเป็นของที่ไม่ระบุคอเลคชั่นจากปี1996..ก็กางเกงแบบนี้..สีนี้.."Thierry Mugler"ทำบ่อยมากแทบทุกซีซั่นในช่วงยุค90

Picture : A Vogue Idea

วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Fall/Winter 2011-2012 : Thierry Mugler (Details)


Picture : Colette

เปรียว : 1982


บทความนี้เขียนๆลบๆอยู่หลายรอบ นี่ถ้าเป็นสมุดการบ้านสมัยก่อนต้องฉีกหน้านี้ทิ้ง..5..5..5 ก็..อารมณ์หงุดหงิด..หงุดหงิดจากตัวเอง..ไม่มีใครมาทำ ผ่านเรื่องเสื้อปริญญา,พี่แต้ม,พี่โต..อะไรในรูปไป วังละโว้สถานที่ถ่ายก็ไม่เกี่ยว มาเข้าเรื่อง..ที่ไม่ค่อยจะเป็นเรื่อง..5..5..5 เสื้อเล่มนี้มีนางแบบ,นายแบบ..เอ็กซ์ตร้า..มาจากบาร์"แฮรี่ส์"..


บาร์"แฮรี่ส์"..คืออะไร?..ที่ไหนกัน? บาร์"แฮรี่ส์"..เป็นบาร์อยู่สีลมซอยสองตำแหน่งของบาร์"เอกซ์เพรสโซ่"ในปัจจุบัน ทำไม..ถึงได้มี..นาง..นาย..มาจาก"แฮรี่ส์"? ก็เจ้าของเสื้อ..เขาโชว์อยู่ที่"แฮรี่ส์"ไงค่ะ โหน่ง..ทั้งร้อง..ทั้งเต้น..ว๊าย..ไม่ใช่ "ปริญญา มุสิกมาศ"เป็นทั้งนางโชว์และคนออกแบบเสื้อให้กับโชว์แฮรี่ส์ แน่นอน..เปรี้ยวๆ..ทุกเพลง บางวันคนโชว์อารมณ์ไม่ดี..ลิป..อยู่ดีๆ...เดินเข้าม่าน นับ..1..2..3..ออกมาโชว์ใหม่..นั่นเป็นเรื่องปกติของ"แฮรี่ส์"..5..5..5 ในภาพเซทนี้..เห็นชัดคนเดียวคือ"ป้อม"(สูทขาว) ส่วนอื่นๆ..และอื่นๆ..น่าจะเป็น.."ฟิต".."ยุ่ง".."ห้อย"..อะไรทำนองนั้น..เดาเอา ก็แหม..ดิฉันเป็นคนนอกวงการ..5..5..5


"แฮรี่ส์"..ไม่เหมือน"โรม"ซอยสี่ เพลงเปรี้ยว..ไม่สนใจว่าเขาจะฮิตอะไรกัน..5..5..5 อะไรที่ชาวบ้านไม่เปิดให้เต้น.."แฮรี่ส์"จะเปิด..เต้นได้ไม่ได้ว่ากันอีกที "แฮรี่ส์"..มีบาร์เพื่อนบ้านอย่าง"การ์เด้น"และ"ซีโร่"ที่อยู่ชั้นสองสุดซอย แรด..แรดมาก..เพราะเปิดกลางวันด้วย ทาร์เกตกรุ๊ปมีทั้งเด็กหญิง(ผู้หญิงจริงๆ),เด็กชาย,เด็กตุ๊ด ทั้งโรงเรียนไทย,โรงเรียนฝรั่งชื่อดัง ตกดึกเที่ยว"โรม"..ปิดท้ายด้วย.."แฮรี่ส์" เด็กสมัยนี้เห็นเด็กสมัยก่อนเที่ยวคงกรี๊ด...ด..ด..ด ไปโรงเรียนตอนเช้าต้องใส่แว่นดำ..ตาแดงมาก..5..5..5 อ้อ..มีเพลง..ไม่มีอะไรเหมาะกับ"แฮรี่ส์"..เท่ากับเพลงนี้อีกแล้ว

Picture : แมวเหมียว

   THP - Good To Me 1979 by 10bobby10

My Favorite : "Junya Watanabe" Fall/Winter 2011-2012


Picture : Colette

วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2554

วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2554

วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2554

โฮ่ง..โฮ่ง..เอ๋ง..เอ๋ง..ง..ง..ง..ง


ไม่มีอะไรที่เกาหลีไม่มี..5..5..5 คงไม่ถึงขนาดต้องบอกน่ะค่ะว่าตัวไหนของใคร ซ้าย..น่าจะประมาณหกพันกว่าบาท(และหมดไปจากทุกเวปเรียบร้อยแล้ว) ส่วนขวา..หกร้อยกว่าบาท(ยังมีของพร้อมรับออร์เดอร์..5..5..5)

Picture : Ssense , Zipia

วันพุธที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Marc Jacobs


แฟชั่นมักชอบทำสิ่งที่ท้าทายสังคม ขึ้นอยู่กับว่ามันเหมาะสมไหม? ภาพที่เห็นด้านบนเป็นภาพโฆษณาล่าสุดจาก"Marc Jacobs" แน่นอนมันท้าทาย..และตลกร้าย แต่ถ้ามีคนตั้งคำถามแบบตลกร้ายกลับล่ะ? คนออกแบบหรือเจ้าของแบรนด์จะรับการท้าทายนั้นได้ไหม? เช่น"น่าจะเปลี่ยนจากนายแบบเป็นนางแบบที่เป็นคนดัง อย่างเช่น"Anna Wintour"หรือ"Diane von Fürstenberg"เพราะจะได้ผูกลูกโป่งได้สามตำแหน่ง"..ตลกไหม?..ไม่เหรอ? งั้นเอาเป็นแบบนี้ก็ได้"นายแบบสูงอายุก็โอเคแล้วน่ะ แต่น่าจะใช้คนรู้จักกันอย่าง"Bernard Arnault"แทน..น่าจะดีกว่า"..ไม่ขำ?..แหมเส้นลึกกันจัง

Picture : Marc Jacobs

วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Headquarter


ปีนี้มีแต่ข่าวร้ายในวงการแฟชั่น ไม่เว้นแม้แต่เมืองไทย ตามข่าวที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน ร้านขวัญใจของใครหลายๆคนอย่าง"Headquarter"อาจปิดตัวลง เมื่อหมดสัญญาเช่าร้านภายในปีนี้ และจะมีโชว์หนสุดท้ายในนามของ"Headquarter"ในงานELLE Fashion Week"กลางเดือนตุลาคมนี้ นี่คงเป็นช่วงสุดท้ายที่จะมีโอกาศได้เป็นเจ้าของของสินค้าภายใต้ชื่อ"Headquarter"

Fall/Winter 2011-2012 : Givenchy (Campaign)


ภาพโฆษณาของ"Givenchy"ประจำฤดูกาล"Fall/Winter 2011-2012" ที่มีหลายคนบอกว่า.."Very Grace Jones"

Spring/Summer 2012 : Givenchy (Accessories)


กลับมากันที่.."Givenchy" ใช่.."Givenchy"อีกแล้ว ชอบอะไรก็เขียนตามนั้น..ถูกไหมค่ะ? ใครจะไปบ้าบอเขียนในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบล่ะ..5..5..5 มาดูกันที่ต่างหูผู้ชายก่อนเลย..จริงๆจะเขียนตั้งแต่ตอนจบโชว์ใหม่ๆแล้ว แหม..คนเราก็มีไม่แน่ใจบ้าง เพราะไม่ใช่คนเก่ง..รู้ดี..เลยต้องอย่าประมาท..5..5..5


ต่างหูในโชว์ของผู้ชายครั้งนี้มีหลายแบบ แต่ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็น"แม่เหล็ก"..คือไม่ต้องเจาะหู ดึงออกแล้วก็ประกบเข้าไป..ก็ติดแล้ว อืม..ม..แต่มันก็ไม่ใช่ของใหม่หรอกน่ะ เพียงแต่วิธีการนำเสนอมันแตกต่างออกไปจากเดิมๆที่เคยทำกันมา มาๆ..เขียนสั้นๆช่วงนี้งานชุกเป็น"อั้ม พัชราภา" เขียนเยอะเดี๋ยวส่งงานชาวบ้านไม่ทัน..5..5..5


มาต่อกันที่รองเท้า ตอนเดินในโชว์..มีแค่รองเท้ายางสองแบบ..สามสี พอออกขายจริง ออกมาอีกอื้อ..แต่รองเท้าหนังสองคู่ที่เอามาลงนี้ ดิฉันชอบมาก..แต่คาดว่า..คงไม่มีปัญญาซื้อ ราคาของ"Givenchy"แต่ล่ะชิ้นเนี่ย เอาไปซื้อตั๋วเครื่องบินไปเดินเล่นเมืองนอกดีกว่า


และท้ายสุด..ชิ้นนี้เป็นของผู้หญิง เป็นผ้าัพันคอที่ทำจากไหมลายสองพิมพ์ของจากคอเลคชั่น"Cruise 2012" ราคายังไม่เห็น..อย่ามาสองพัน..สามพัน..นี่มัน"Givenchy"น่ะ นี่เป็นอีกชิ้นที่อยากได้..แต่ก็อยู่ที่ราคาอีกนั่นแหละ


Picture : GQ , Givenchy

วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2554

My Favorite : Rubinacci

คนเราเนอะ..งานการมีไม่ทำ เขาโทรมาทวงงาน..ก็พูดไปเรื่อยว่า"กำลังทำอยู่ค่ะ" แหม..ดูดีทีเดียว ที่ไหนได้..นั่งเล่นเนตทั้งวัน..หาสาระไม่เจอ..5..5..5 เปิดไป..เปิดมา..เจอนี่ อุ๊ย..ต๊าย..ตาย..ว๊าย..กรี๊ด..ด..อะไรกันนี่ ตอนแรกนึกว่าผ้าพันคอ..แหม..ก็เห็นฮิตกัน แต่ไม่ใช่..เป็นผ้าเช็ดหน้าขนาด30X30ซม. ผืนเล็กนิดเดียว..แต่ราคาไม่เล็ก..เบาๆ..ผืนล่ะสองพันกว่าบาทเอง..


จริงๆดองไว้หลายบทความมากเลยน่ะเนี่ย โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับของ"Givenchy"..แต่ด้วยความที่รู้สึกที่ว่า.."Givenchy"ชักจะเยอะไปแล้ว ขืนลงอีกหน้าแรกคงกลายเป็นบทความ"Givenchy"ไปทั้งหมด คงต้องเปลี่ยนชื่อบล็อคเป็น.."Foxy Lady for Givenchy"..อะไรทำนองนั้น..5..5..5 มาเข้าเรื่อง..ผ้าเช็ดหน้าต่อ


ผ้าเช็ดหน้าที่เอามาลงเป็นของแบรนด์"Rubinacci"..แน่นอนของอิตาลี จริงๆเขาแบ่งด้วยน่ะ..ว่ามีลายของผู้ชาย..กับลายของผู้หญิง แต่ที่เอามาลงทั้งหมดเนี่ย..เป็นลายของของผู้ชาย..แรดมาก จริงๆลายมันก็ไม่ค่อยต่างกันหรอกค่ะของผู้หญิงกับของผู้ชายแบรนด์นี้..5..5..5


Picture : Rubinacci

วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Fall/Winter 2011-2012 : Issue


"Issue" : Fall/Winter 2011-2012 Presentation


"Issue" : Fall/Winter 2011-2012 Press Kit

Picture : Foxy Lady

Spring/Summer 2012 : Izzue


ไม่ได้เขียนถึงเรื่องฮ่องกงมานานแล้ว เอามาเขียนถึงบ้างดีกว่า ฮ่องกงมีแบรนด์ของตัวเองหลายแบรนด์ เมื่อก่อนมีหลายแบรนด์กว่านี้แต่ก็ล้มหายตายจากไปตามกระแสความต้องการของแฟชั่น แฟชั่นมันมัก"ฆ่า"ตัวเอง มันมีระบบกำจัดสิ่งที่"ไม่มีความต้องการ"แล้ว จริงๆดิฉันชอบหลายชิ้นของ"Izzue"หรือว่า"5 cm." แต่ด้วยหลักความจริงในปัจจุบัน..มันแพงไปเมื่อเทียบกับของที่ได้มา โดยเฉพาะราคาที่ตั้งไว้ในเมืองไทย ถ้าราคาแบบนี้เพิ่มอีกไม่เท่าไหร่คงได้"Energie"หรือ"Diesel" คงไม่มีใครกำเงินจำนวนไกล้เคียงกันไปซื้อเสื้อผ้าฮ่องกง ที่อย่างราคาเนคไทที่เส้นนึงเกือบสองพันบาท


มีคนบอกว่า.."Zara"คือ"Fast Fashion"มาง่าย..ไปเร็ว" แต่ว่าสมัยนี้มีอะไรไม่เป็นแบบนั้นบ้าง..บอกมาซิ สำหรับดิฉันแล้ว"Zara"กลายเป็นตัวบรรทัดฐานของราคาเสื้อผ้าที่จะซื้อ บางคนอ่านเจอตรงนี้แล้วคงกรี๊ดๆ เพราะว่า"Zara"นั้นผลิตเยอะ..เยอะมาก จนทำให้สินค้าหน้าตาคล้ายๆกันถูกลงมากว่าครึ่ง..หรือเกินครึ่ง แต่.."Zara"ก็ไม่ได้มีเสื้อผ้าที่เราต้องการทุกแบบ..หรือทุกสี นั่นคือตัวเลือกสำหรับแบรนด์อื่นๆ


ที่สำคัญคือมันต้องไม่แพงจนมานั่งคิดแล้วคิดอีกในสถานการณ์ที่เสื้อผ้าล้นตลาดแบบนี้ อย่างกางเกงผู้ชายขาสั้นในราคาพันกว่าปลายๆเกือบๆสองพันเป็นราคามาตรฐานสำหรับแบรนด์ทั่วไปแถวสยาม ซึ่งลูกค้าก็คงเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเงินจำนวนนั้น อาจจะมากกว่าการดูแบรนด์ซ่ะด้วยซ้ำไปในสมัยนี้

Picture : Superfuture

วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2554

CC-OO : 6th Anniversary


นี่เป็นอีกครั้งที่เขาไม่ได้เชิญ แต่แอบไปเงียบๆ..ไม่กระโตกกระตาก..5..5..5 งานครบรอบ6ปีของแบรนด์"CC-OO"จัดขึ้นที่ชั้นใต้ดินโรงแรม"S31" ตัวงานดูเวียนหัวเล็กน้อย(นี่แหละ..เขาถึงไม่มีใครออกปากเชิญ..5..5..5) แขกที่ควรเป็นจุดเด่นกลับหายไปในหมู่ตัวประกอบ ส่วน..ไม่น้า..ไม่น่า..กลับยืนถ่ายกับแบ็คดรอปอย่างสง่าผ่าเผย ช่างภาพก็ถ่ายกันหูดับ โดยงานนี้เสื้อผ้าส่วนหนึ่งในโชว์คือคอเลคชั่นที่คุณ"ก้อย สุวรรณเกต"ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับแบรนด์"CC-OO" ที่จะออกขายในเดือนตุลาคมนี้ ไปดูรูปแบบไม่ตกหล่นและชัดเจนกว่านี้ได้ที่"CC-OO : 6th Anniversary"

ซื้อกล้องใหม่ก็แล้ว ก็ยังถ่ายไม่สวย..ไม่นิ่งเหมือนเดิม รู้งี้ซื้อกล้องกระดาษใช้ดีกว่า

คุณ"ก้อย สุวรรณเกต"(ซ้าย) , คุณ“ตือ สมบัษร” (ขวา) ท่ามกลางหมู่นายแบบ

Picture : Foxy Lady

Spring/Summer 2012 : Mr. Jones' Diary


Picture : WWD

วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Disco Miu Miu


บาดตา..บาดใจที่สุด ตามรายละเอียดว่า..ตัวรองเท้าทั้งคู่เป็นผ้า"Lamé"แล้วเคลือบด้วยกากเพชรอีกที ส่วนหัวรองเท้ามีให้เลือกสองอย่างทั้งแบบตอกหมุด..และแบบ"Crystal"

Picture : NY Times