



ดิฉันไม่ค่อยเขียนถึงหนังสือฝรั่งเท่าไหร่ เพราะไม่ชอบ ไม่ชอบเพราะมีมาตรฐานของตัวเอง..ไม่ใช่มาตรฐานโลก เมื่อก่อนนี้ซื้อหนังสือแฟชั่นผู้ชายอยู่แค่สามยี่ห้อคือ"Mondo Uomo","Per Lui"(สองเล่มนี้ของอิตาเลี่ยน)และ"Mr."(เล่มนี้ของญี่ปุ่น) ทั้งสามเล่มเจ๊งไปแล้วเรียบร้อย จากนั้นมาซื้อหนังสือแฟชั่นยาก เคยเห็นเพื่อนที่ทำงานเป็นสไตล์ลิ่งซื้อหนังสือ(เอ่ยชื่อได้ไหมค่ะ?..อะไรน่ะ?..ไม่ได้..เออๆ) ชีซื้อเหมือนผักปลาเหมือนซื้อไปทำจับฉ่าย แบบว่าอะไรออกซื้อไปให้หมด ในความคิดของดิฉันส่วนหนึ่งคือ"อิจฉา"..อิจฉาที่เขามีเงินซื้อหนังสือได้เยอะๆ แต่อีกส่วน..มันจะซื้อไปทำไมเยอะแยะ..บางเล่มรองขาตู้เย็นยังสวยน้อยไปเลย รูปที่เอามาลงนี้จากหนังสือแฟชั่นสเปนชื่อ"Metal"เป็นหนังสือรายสะดวก(อีกแล้ว)
Picture :
Coute que coute
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น