Mango Fashion Award 2012 : Wisharawish Akarasantisook

Wisharawish Akarasantisook

Cruise 2013 : Just Cavalli

แบรนด์อะไรที่ฮิตหรืออยู่ในกระแสมักมีอิทธิพลต่อวงการแฟชั่น ไม่ว่าจะกับตลาดแฟชั่นทั่วไปหรือแม้แต่แบรนด์ดังๆด้วยกันเอง แต่จะด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่งาน"Cruise 2013"ของ"Just Cavalli"คราวนี้นั้นอบอวลไปด้วยแนวคิดที่ดูคล้าย..หรือจนในบางชิ้นนั้นแทบจะเหมือน.."Givenchy" นั่นเป็นอิทธิพลระหว่างดีไซน์เนอร์ต่อดีไซน์เนอร์ด้วยกัน อย่าไปกัดชาวบ้านเรื่องว่าแบรนด์นั้นฉาบฉวยเป็น"Fast Fashion"นั่นนี่ ในขณะที่ตัวคนว่าเองก็ยังก๊อปปี้เสื้อฝรั่งจนลูกค้าจับได้ เพราะนั่นมันก็ไม่มีอะไรแตกต่างจากกันนัก แฟชั่นมักมีกระแส..ใครทำให้เกิดกระแสได้ในยุคนี้..ในยุคที่เสื้อผ้าล้นโลก..ก็เท่ากับเก่งมีฝีมือและจับจุดช่องโหว่ของตลาดได้

Picture : WWD

Cruise 2013 : Givenchy

ใช้คำนี้ดีไหม?..สวย"เหมือนเดิม"..5..5..5 จะได้ให้ความหมายสองแง่สองง่าม คือทั้งสวยและเหมือนเดิม ดิฉันเข้าใจน่ะว่า..เสื้อคงต้องมี"สัญลักษณ์"บางอย่างที่คนทั่วไปเห็นแล้วจำได้ อย่างลวดลายหรือโครงสร้างเสื้อ ตอนนี้งานของ"Givenchy"ดูท่าจะ..ขายและไม่ไปไหนเปลี่ยนแค่ลาย(ก็..ไม่ค่อยเปลี่ยนน่ะ..5..5..5)และสี เพราะความต้องการของตลาดในเสื้อผ้าสไตล์นี้ของ"Givenchy"มีสูง เลยทำให้"Riccardo Tisci"ต้องผลิตของในแนวที่ตลาดมีความต้องการออกมาเรื่อยๆ..และเรื่อยๆ ลายๆ..ดาวๆ..กระเปรง..รองเท้าแตะ..ผ้าพันคอ..วนไป..วนมา

Picture : Hypebeast

Cruise 2013 : Chanel

โชว์ของ"Chanel"คราวนี้ จริงๆมันมีชิ้นสวยน่ะ..แต่บังเอิญชิ้นที่ไม่สวยมันเยอะกว่า..5..5..5 หลายชุดที่เป็นผ้า"Tweed"ดูป้า..ไม่ซิ..ดูเป็นยายเพิ้งหลุดยุคมาจากไหนก็ไม่รู้ คือบางอย่างก็อย่าปล่อยให้คำว่า"Chanel"มันใหญ่เกินกว่าแบบเสื้อที่เห็น แล้วกลายเป็นว่าพอเป็น"Chanel"คือสวยและดีไปหมด ซึ่งใครๆก็รู้ว่า..มันไม่จริง

"Karl Lagerfeld"คือดีไซน์เนอร์คนนึงที่มีความคิดสร้างสรร ไม่ว่าจะทำให้แบรนด์ไหน"Karl Lagerfeld"มักสร้างจุดขายให้กับแบรนด์นั้นๆอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น"Chloé","Fendi"และ"Chanel" นั่นยังไม่รวมแบรนด์เล็กแบรนด์น้อยยิบย่อยของตัวเอง แต่หลังๆมานี้..5-10ปี"Karl Lagerfeld"ดูแน่นิ่ง..กับแบบเสื้อและไม่มีความคิดสร้างสรรแปลกใหม่ใดๆ โดยที่"Karl Lagerfeld"นั้นเปลี่ยนจุดขายของ"Chanel"จากเสื้อผ้าไปเป็นงานโปรดักชั่นที่ใหญ่มากๆ เสื้อผ้าในโชว์มักแบบซ้ำๆกันเปลี่ยนผ้าเปลี่ยนลายปัก บางชุดในคอเลคชั่นนี้ของ"Chanel"ดูแก่และเชยอย่างที่ไม่น่าปล่อยให้หลุดออกมาเดิน บางคนอาจจะแย้งดิฉันว่า..ก็ตลาดของ"Chanel"เป็นแบบนั้น แหม..แก่ก็ไม่จำเป็นว่า..ต้องแก่ลงไปอีก..จริงอ่ะป่าว

Picture : Vouge , Please Magazine , Zimbio

Schiaparelli & Prada : Impossible Conversations

กลายเป็นธรรมเนียมไปแล้วสำหรับยุคหลังๆมานี้ ที่งานนิทรรศการต้องมาคู่กับการออกหนังสือ งาน"Schiaparelli and Prada : Impossible Conversations"ที่เพิ่งเริ่มไปเมื่อวันที่ 10 เดือนนี้ ก้มีหนังสือออกมาจำหน่ายแล้ว โดยชื่อหนังสือกับชื่องานเขียนต่างกันคือชื่องานใช้"And"แต่พอเป็นหนังสือใช้"&"ซึ่งจริงๆมันก็ความหมายเดียวกันแหละ..5..5..5

ส่วนภายในเล่มรูปและการวางอาร์ตก็สวยๆสมกับมาตรฐานที่เป็นงานของ"The Metropolitan Museum of Art"ผลิตออกมาเอง ซึ่งจริงๆก็สวยทุกครั้งที่ผลิตออกมา คือไม่ใช่ว่า..เป็นหนังสือของดีไซน์เนอร์ดังแล้วจะสวยไปสะทุกครั้งหรือทุกเล่ม เยินๆพังๆซื้อแล้วน่าเอาไปฉีกพับเป็นถุงใส่กล้วยแขกก็มีถมไป หนังสือ"Schiaparelli & Prada : Impossible Conversations"ทำออกมาเป็นแบบปกแข็งเพียงอย่างเดียว โดยมีความหนาอยู่ที่ 324 หน้า ในราคาประมาณ 1,369 บาท

Picture & Details : The Metropolitan Museum of Art , Pentagram

รู้ไว้ใช่ว่า : ตารางแฟชั่นวีค 2012 ครึ่งปีหลัง

ตารางแฟชั่นวีคครึ่งปีหลังนี้..คงทำให้บางเมืองฝันสลายที่จะเป็นเมืองที่มี"Men's Fashion Week"เป็นอันดับสามในโลกแฟชั่น..5..5..5 เพราะว่า..เมืองใหญ่เจ้าถิ่นเขาแยกโชว์ของผู้ชายออกมาหมดแล้ว ถ้าเป็นได้ก็น่าจะอันดับห้า..5..5..5 นั่นคือหมายความว่า..โตเกียวหรือโซลเขาไม่แยกเพิ่มขึ้นมาน่ะ ถ้าเกิดเขาแยก ประเทศที่ว่าก็จะหล่นลงไปเป็นอันดับหก..หรืออันดับเ็จ็ด..5..5..5 ก่อนที่จะประกาศอะไรให้ขายหน้าไปทั่วโลก ก็็็็น่าจะจับยามสามตาดูทิศทางลมในโลกแฟชั่นก่อนที่จะประกาศออกมา แต่..เขาคงแก้ตัวได้ว่า..เขาเป็น"Men's Week"เฉยๆ..ไม่ได้เป็น"Men's Fashion Week"..5..5..5

Details : Modem Online

Theatre : Backstage

Theatre

Fall/Winter 2012-2013 : Undercoverism

ดูท่าทางว่า..ที่"Jun Takahashi"ทำให้กับ"Uniqlo"จะไม่ประสบผลสำเร็จและเป็นที่ฮือฮาเท่ากับตอนที่"Jill Sander"มาทำ"+J"ให้กับทาง"Uniqlo"ซักเท่าไหร่ ซึ่งจริงๆแล้วเสื้อของ"Jun Takahashi"ที่ทำให้กับ"Uniqlo"นั้นก็มีแนวคิดและรายละเอียดเดียวกับตัว"Undercoverism"ในคอเลคชั่น"Fall/Winter 2012 - 2013"นี้ เพียงแต่โดนลดรายละเอียดและเปลี่ยนรูปทรงให้ใส่ง่ายขึ้น,เข้าใจง่ายขึ้น(จะได้ขายง่ายขึ้น..5..5..5)

แต่แบรนด์ญี่ปุ่นส่วนใหญ่แบ่งออกเป็นสองอย่างคือเยอะๆกับน้อยๆ(5..5..5) "Jun Takahashi"อยู่ในกลุ่มแรกส่วน"Uniqlo"นั้นอยู่ในกลุ่มที่สอง เมื่อนำมารวมกันคงต้องคนล่ะครึ่งทาง..5..5..5 รูปทรงแบบเบสิคที่มีรายละเอียดหลบใน คือต้องซื้อมาใส่ถึงจะเห็น..5..5..5 แต่นั่นคงไม่ใช่ความต้องการของคนที่อยากได้ผลงานของ"Jun Takahashi" มันไม่เรียบน่ะ..แต่มันไม่ชัด

Picture : Fashionsnap