ขณะที่เมืองร้อนแบบเมืองเรากำลังลาจากหน้าร้อนเข้าสู่หน้ามรสุมอย่างเต็มตัว เมืองหนาวเพิ่งย่างเท้าเข้าฤดูใบไม้ผลิ ฉะนั้นของหน้าร้อนจึงยังแค่เพิ่งวางขาย เทรนด์นึงในหน้าร้อน(ยังไงเมืองเราก็ใส่ได้ตลอดอยู่ดี..5..5..5)คือลวดลายที่เกี่ยวกับ"ฮาวาย" และแน่นอน..ไม่ใช่ต้อง"ฮาวาย"ยุคนี้ โดยที่ลวดลายหรือสไตล์ยอดนิยมมักโดนดัดแปลงมาจากช่วงยุค50มาจนถึงยุค70 หลังจากนั้นนัยว่า..ไม่สวยแล้ว คนไทยบางคนหรือหลายคน(นี่เลี่ยงและเลือกคำเขียนแล้วน่ะ..เดี๋ยวมีคนร้อนตัวอีก..5..5..5) ไม่สนใจที่มาและที่ไปของแฟชั่น..แต่ชอบเขียนถึง โดยชอบบอกว่าของโบราณนั้นเป็นเหมือนของที่หมดยุคหรือเพียงแค่ขยะชิ้นนึงจากอดีต(นี่ดัดแปลงจากต้นฉบับแล้วน่ะ..5..5..5) บังเอิญ..ฝรั่งหรือญี่ปุ่นคงไม่ได้คิดแบบนั้นมั้งค่ะ
ภาพบนอย่านึกว่าคอเลคชั่นเดียวกัน หรือ"Dolce&Gabbana"ย้ายไปรับจ๊อบทำ"Zara" ขาสั้นซ้ายมือจาก"Dolce&Gabbana" ที่น่าจะพูดได้เต็มปากพิมพ์ได้เต็มมือแบบไม่ละอายใจหลังพิมพ์ว่า..น่าจะเป็นต้นแบบเทรนด์"ฮาวาย"ในซีซั่นนี้ ส่วนขวาลอยเด้งมาแต่ไกล..ไม่ใช่ใครที่ไหนเสื้อเชิ๊ตจาก"Zara"ราคาเป็นเงินไทยอยู่ที่1,590บาท
ส่วนฮาวายเซทนี้อยู่ๆก็โผล่มา..จำได้ว่าไม่มีน่ะ..5..5..5 แต่สวยจนเกินหน้าเกินตาคนทำก่อน แบบว่าฆ่ากันชัดๆ เสื้อสี่รูปด้านบนจาก"Dover Street Market"หรือซับแบรนด์ของ"Comme des Garçons"จากซุปเปอร์คุณยาย"Rei Kawakubo" โดยเฉพาะแจ็คเก็ตสีกากีที่พิมพ์ลายด้านในสวยถูกใจ ราคาเบาๆ..หมื่นบาทนิดๆ
นี่ก็..ฮาวายเฉพาะกิจอีกหนึ่งแบรนด์ ว่าไม่เห็นตอนโชว์น่ะ..เอ๊ะ..หรือมี..5..5..5 ลายสวย..แบบเชย..รายละเอียดดี..คงต้องหาคนซื้อใส่ที่เป็นมิตรกับสไตล์นี้ ด้วยราคาเบาๆอีกเช่นกัน..แต่ราคานี้สำหรับ"Paul Smith"น่าจะเรียกว่าถูกมั้งค่ะ เพราะขาสั้นสี่พันกว่าบาทกับแบรนด์นี้..ไม่น่าเรียกว่าแพง แต่ดิฉันว่าทรงเชยน่ะ..หรือรสนิยมดิฉันไม่ดีเอง..5..5..5
ตบท้ายด้วยของสวยราคาซื้อได้..แต่เมืองไทยไม่มีขาย..5..5..5 ซ้าย"Topman"ของเข้าเมืองไทยรึปล่าวไม่รู้ หาราคาตัวนี้ไม่เจอในเวป นอกจากไม่เจอราคาแล้ว..ยังไม่เจอแบบด้วย..5..5..5 มีแต่รูปใน"Lookbook" ส่วนตัวขวา..ไม่มีแน่ๆแต่ใครรูดได้น่าจะมีโอกาศ เสื้อสาวฮาวายเหลืองอ๋อยของ"ASOS" แบรนด์สวยราคายุติธรรมแต่หาซื้อยาก
Picture & Details :
Dolce&Gabbana ,
Aloha Rag ,
Definitive Touch ,
Top Man ,
ASOS