Magnetic Balenciaga (Balenciaga S/S 2009)

อีกหนึ่งในโชว์ที่ใครๆก็เฝ้ารอ ถึงแม้หลายคอเลคชั่นหลังๆจะดูคล้ายกับเป็นร่างทรงของ"Thierry Mugler"ก็ตามทีเถอะค่ะ แต่ไม่ว่ากันเพราะอย่างน้อยๆ"Nicolas Ghesquière"ก็เคยเป็นผู้ช่วย(มือขวา..หรือซ้ายไม่ทราบได้ค่ะ)ของ"Thierry Mugler"มาก่อน ไม่ว่าจะแพทเทิร์นหรือโครงสร้างที่คุ้นตาแบบแขนเป้า,คอปีนไปจนถึงเสื้อผ้าที่ไม่ใช้กระดุมเหมือนแบรนด์อื่นๆทั่วๆไป แต่กลับใช้"แม่เหล็ก"(ของ"Thierry Mugler"ก็เช่นกันค่ะ)ถ้าคนที่ได้ดูหรือ..ได้เห็นเสื้อของ"Thierry Mugler"บ่อยๆจะเห็นได้ว่าเสื้อของ"Nicolas Ghesquière"นั้นแทบจะ..ถอดแบบออกมาจากเสื้อของ"Thierry Mugler" โดยนำเอาโครงสร้างและเส้นสายมาปรับแต่งให้ดูสมัยใหม่ขึ้น แต่ก็ชอบค่ะ..

Lanvin S/S 2009 Finale

อืม..ม..เพลงมาแล้วจาก"Alexander Mcqueen"เอาอีก(เอาอีก..เอาอีก..)หนึ่งแล้วกันค่ะ คราวนี้เป็นฟินาเล่ของ"Lanvin"แบรนด์ยอดรักสลักใจของใครๆหลายๆคน จริงๆถ้าจะพูดให้ถูกคือคนรัก"Alber Elbaz"ซิค่ะ..ไม่ได้รัก"Lanvin"ซักหน่อย ที่เขียนนี้เพราะเพลงที่โดนเลือกมาใช้ในตอนฟินาเล่ในครั้งนี้คือเพลง"Gonna Get Along Without You Now"ของ"Viola Wills"เพลงฮิตติดบาร์ของสีลมซอยสอง..ซอยสี่..เมื่อปี1979 ถึงแม้คราวนี้จะเป็นMixจนเหลือแค่คำว่า..Ah..Haa..a..a..ก็เถอะค่ะ ใครๆก็จำได้ถ้าเป็นขาเที่ยว"โรมคลับ"หรือ"แฮร์รี่ส์"



Gonna Get Along Without You Now : Viola Wills

Alexander Mcqueen S/S 2009 Finale

ถึงโชว์ Spring/Summer 2009 ของ"Alexander Mcqueen"จะเปิดฉากมาด้วยกองทัพสัตว์สต๊าฟจำนวนมากมายมหาศาล ด้วยจำนวนและประเภทของสัตว์ที่..น่าจะน้อยกว่าก็แค่บนเรือของโนอาร์ แต่ฉากปิดท้าย..หรือฟินาเล่กลับเป็นเพลงไตเติ้ลจาก รายการ"Pink Panther Show"ก็การ์ตูนเสือสีชมพูนั่นแหละค่ะ เป็นเพลงประกอบตอนต้นและตอนท้ายของรายการในช่วงต้นยุค60 แต่เป็นคนล่ะเพลงกับ"Pink Panther Theme"ที่เราได้ยินกันบ่อยๆน่ะค่ะคนล่ะอันกัน

Alexander Mcqueen S/S 2009



Pink Panther Original TV Show

Diamonds Are Forever (Alexander Mcqueen S/S 2009)

"Alexander Mcqueen"คงเป็นโชว์ที่..มีคนอยากดูเยอะที่สุด(มั้งค่ะ) ปีนี้น้องอ้วนแกมากับความวูบวาบตัวจรดเท้าด้วยคริสตัลที่น่าจะ(ต้องใช่ซิ)เป็นของ"Swarovski" รวมไปถึงลายผ้าที่เป็นลายเพชรพลอยหลากสีในแบบ"Kaleidoscope" คาดว่า..เวลาขายจริงในปีหน้า(หรือปลายปีนี้)ก็คงมีผ้าพันคอของฮิตของแบรนด์นี้ออกมาเป็นลายเพชรพลอยหรือหนักกว่านั้นอาจมี..ลายกะโหลกเพชรแบบ"Kaleidoscope"ก็ได้ค่ะ

Cotton Candy Hair (John Galliano S/S 2009)

ทิ้งไว้นานจนกลายเป็นBlogรกร้างว่างปล่าว แต่นี่มันBlogเรานี่นาอยากเขียนก็เขียน..ไม่อยากก็ไม่เขียน เพราะBlogนั้นเขียนยากเขียนเย็น แล้วไม่ค่อยยินดียินร้ายกับภาษาไทยนัก แก้ก็ยากไปอำเภอเปลี่ยนทะเบียนบ้านยังง่ายซ่ะกว่า พูดไปก็สองไพเบี้ย..Blogส่วนใหญเขาเอาไว้เขียนให้โกอินเตอร์ แต่ดิฉันดันไฝ่ต่ำไม่อินังขังขอบกับการเขียนภาษาอังกฤษ เนื่องด้วยว่าจะให้อ่านกันเอง..ซึ่งก็คงมีน้อยนิด..อาจถึงขั้นอ่านเองคนเดียว แล้วเรื่องก็เป็นเรื่องฝรั่ง100ล่ะ95ก็เลยไม่รู้จะเขียนภาษาอังกฤษไปทำซากอะไร แต่ถ้าปล่อยไว้นานBlogคงเน่า..เขียนดีกว่า Spring/Summer 2009เพิ่งผ่านพ้นไปมีทั้งของสวยงามและของเน่าเสียใช่ว่าฝรั่งหรือยี่ห้อแบรนด์ดังมันจะสวย..ย..ไปซ่ะทั้งหมด ไอ้ที่เน่า..ทำลวกๆให้พ้นๆไปในแต่ล่ะซีซั่นก็เยอะแยะ เอาของสวยก่อนแล้วกัน..ตั้งแต่ดูซีซั่นนี้มาชอบ"หัว"ของ"John Galliano"ที่สุด ทำไม..ก็เหมือนไหมสวรรค์ที่ขายตามงานวัดไงค่ะ มีหลากสีสันตั้งแต่เขียว,ม่วง,ส้ม,เหลือง,น้ำเงินไปจนถึงเทาหรือขาวขุ่นไม่แน่ใจ แต่งหน้า..ก็สวยเข้ากับผมเหมือนของเล่นโบราณ..

Blog : Fashionation *Closed*

"fashion-ation"เป็นเวปไซท์ใหม่ที่แยกตัวออกมาจาก"thecoolhunter" หลังจากออกข่าวมาหลายเดือนรอแล้ว..รออีก..ก.. จากต้นเดือนที่แล้ว(มิถุนายน)มาเป็น15..มาป็น25..จนแล้วจนรอดมาเป็นต้นเดือนกรกฎาคม ในที่สุดก็เปิดได้สักที เวปไซท์"fashion-ation"นั้นเน้นที่ข่าวแฟชั่นประเภทรูปสวยเป็นหลัก ต่างจากเวปไซท์หรือบล็อคแฟชั่นอื่นตรงที่คงไม่มีเรื่องประเภท"ป้าคาร่าไม่สามารถมีลูกให้สามีได้"หรือ"พี่มากขา.."เปลี่ยนสามีอีกแล้ว"เพราะข่าวพวกนั้นทาง"fashion-ation"คงถือว่าเป็นประเภทข่าวอาชญากรรม ฉะนั้นเวปนี้คงเน้นภาพมากว่าข่าวค่ะ

Link : fashionation

Romain Kremer S/S 2009

อืม..ม..เสื้อไม่ขายเอาเลยสักชิ้น..สักชุดจาก"Romain Kremer" เปิดไปดู
คอเลคชั่นก่อนหน้านี้F/W 2008-2009เสื้อยังมีใส่ได้อยู่ แต่คอเลคชั่นไม่ขาย
เลยค่ะสักชิ้น..

"Walter Van Beirendonck" S/S 2009

Milan Men's Spring-Summer 2009 เริ่มขึ้นแล้วโดยมีโชว์แรกที่น่าสนใจจากขวัญใจดิฉันตลอดกาลอย่าง"Walter Van Beirendonck" ถึงแม้จะไม่มีอะไรแตกต่างมากมายจากคอเลคชั่นที่แล้วๆมา แต่ก็..ถูกใจค่ะ

Prada “Trembled Blossoms” @ Tokyo

อืม..ม.."Prada"จัดงานค่อนข้างใหญ่ในเอเซียแบบปูพรมเลยน่ะค่ะเนี่ย อย่างนี้เดี๋ยวต้องมี"เซี่ยงไฮ้"อีกที่หนึ่งซิค่ะ คราวนี้ที่โตเกียว"Prada"ได้เปิดตัวงาน"Animated"ใหม่ที่ชื่อว่า"Trembled Blossoms Issue 02" ซึ่งคราวนี้เป็นโฆษณาแว่นตารุ่นใหม่ของ"Prada"โดยเฉพาะ จากคราวที่แล้วในตัว"Animated"เราจะได้เห็นแมลงกลายมาเป็นรองเท้า,ปลากลายมาเป็นกระเป๋า มาภาคนี้ผีเสื้อกลายมาเป็นแว่นตา
ภาพและข้อมูลจาก - wallpaper , prada

Prada “Trembled Blossoms” @ Elements (圓方)

งาน"Trembled Blossoms"คืองานเปิดตัวคอเลคชั่นใหม่ที่ร้านสาขาใหม่ของ"Prada"บนเกาะฮ่องกง นอกจากทุกอย่างจะใหม่หมดแล้วสถานที่..ที่"Prada"ไปเปิดก็ยังเป็นห้างใหม่ล่าสุดของฮ่องกงด้วยค่ะชื่อ"Elements" ภายในงานไม่มีแฟชั่นโชว์เป็นชิ้นเป็นอัน แต่ใช้นางแบบเดินปนไปกับแขกเลย อืม..ม..ดูแล้วเริ่มงงเพราะแขกบางคนก็ใส่คอเลคชั่นนี้ของ"Prada"แล้ว แล้วหุ่นในร้านก็ใส่แยกไม่ค่อยออกค่ะว่าใครเป็นใคร นอกจากนี้ยังมีจอขนาดใหญ่ฉายงาน"Animated"เรื่อง"Trembled Blossoms" ซึ่งหลายคนน่าจะได้ดูแล้ว..ถ้ายังไม่ได้ดูไปหาดูและโหลดได้ที่เวปของ"Prada"ค่ะ
ภาพและข้อมูลจาก - nitro:licious

L'Officiel 1000 Models No. 81

"L'Officiel 1000 Models No. 81"เล่มนี้เป็นเล่มพิเศษค่ะ เป็นการรวบรวมคอเลคชั่นทั้งหมดของ"Christain Dior"ในรอบ60ปีที่ผ่านมา ในความหนาของหนังสือจำนวน193หน้า เต็มไปด้วยภาพจากคอเลคชั่น,ภาพสเก็ต,รูปโฆษณา ซึ่งคอเลคชั่นนั้นมีรูปครบทุกซีซั่นตั้งแต่คอเลคชั่นแรกคือคอเลคชั่นประจำ"Spring/Summer1947"มาจนถึงคอเลคชั่นครบรอบ60ปี"Haute Couture" Autumn/Winter 2007-2008 โดยในหนังสือแบ่งออกเป็นส่วนๆตั้งแต่ยุคแรกที่"Christian Dior"ยังทำเอง(1946-1957) , "Yves Saint Laurent"(1958-1960) , "Marc Bohan"(1960-1989) , "Gianfranco Ferré"(1989-1996) , "John Galliano" (1997-ปัจจุบัน) หนังสือเล่มนี้หาซื้อได้ทั่วไปค่ะ(ตอนนี้น่ะค่ะ)

Devil Name's Prada

Image: Prada

วิดีโอเซทที่เรียกว่า"Production Movies"อืม..ม..ความหมายตามชื่อค่ะ เป็นวิดี โอคลิปสั้นๆเกี่ยวกับขั้นตอนการทำงานภายในบริษัท ตั้งแต่ขั้นตอนแรก..ก็ออกแบบไงค่ะไป จนถึงการเลือกหนัง,แพทเทิร์น,การเย็บ..รวมไปถึงแผนกเสื้อผ้าสำเร็จรูปด้วย แต่ล่ะคลิปสั้น ๆแต่ดีค่ะ อืม..ม..เวปของ"Prada"ยังมีคลิปและอื่นๆที่น่าสนใจอีกค่ะ ถ้าใครสนใจยี่ห้อ "Prada"มานานจะรู้ว่าเวปของ"Prada"มีมานานมาก..ก..ก แต่เป็นนิ่งๆมีหน้าเดียว อยู่หลายปีจนเวปและบล็อคแฟชั่นต่างๆเขียนกัดว่า"เมื่อไหร่(เวป)จะตื่นสักที" ตอนนี้ตื่นแล้ว ค่ะ อารมณ์ดีเสียด้วย

Explorer - Funky Wah Wah

วงไทยชื่อพิลึกนี้ดิฉันไปเจอขณะที่ดูเพลงอื่นๆอยู่ อืม..ม..เลยลองฟังดูเพราะมันโดนวางอยู่ท่ามกลางแผ่นเพลง"ร๊อคขยะ" มันเลยดูแตกต่างจากแผ่นอื่นๆหน้าปกเขียนไว้ว่ามีดนตรีหลายแนว(มาก)จนดูคล้ายส้มตำมากกว่าวงดนตรี เมื่อลองฟังดู..แนวเพลงคล้ายกับแผ่น"Beach House"ของค่าย"Hed Kandi"มากกว่าแนวดนตรีที่เขียนไว้บนหน้าปกโดยเฉพาะเพลงที่สองในแผ่นอย่าง "Surrender" สามารถเอาไปแทรกๆไว้ในตามแผ่นต่างๆของ"Beach House"ได้เลย ดิฉันมีความรู้สึกว่า..เวลาวงดนตรีไทยนั้นเรียกแนววงของตัวเองว่าแนวนั้นแนวนี้เมื่อลองฟังดูนั้นมันจะได้ความรู้สึกแค่จางๆ บางวงอาจจะถึงขั้นจางมากจนอาจจะต้องพึ่งสุนัขตำรวจมาดมเพื่อพิสูจน์กลิ่นของแนวที่ว่าโดยเฉพาะวงที่ชอบบอกว่าเป็นวง"ร๊อค" อืม..ม..อาจจะเป็นเหตุผลงี่เง่าทางด้านการตลาดก็ได้ค่ะที่ทำให้วงต่างๆของไทยออกมาในดนตรีแนวแบบกระมิดกระเมี้ยนแบบนี้ พูดไปสองไพเบี้ยมาลองฟังวงนี้กันดีกว่าค่ะแล้วตัดสินใจเอา

Explorer - Funky Wah Wah

01 Walking On The Moonlight
02 ยอม Surrender
03 ความรักที่ซ่อนไว้ Hidden Track
04 Intermission 01 Jerry's Song
05 My Music Life
06 Love You More
07 พาฉันไป I Believe
08 It's So Beautiful
09 Running In The Rain
10 Disco Light
11 The Last Song
12 Intermission 02 Credits

Download : funkywahwah

"François Berthoud" - Fashion Illustrations

ต่อเนื่องมาจากบทความเรื่อง"Gang of Four"ด้านล่างค่ะ พอมองดูชื่อคนที่เขียนรูปว่าใครก็เห็นว่าเป็นชื่อของ"François Berthoud" ก็เลยลองหาดูว่าเขาเป็นใครประวัติเป็นยังไง พอเห็นรูปงานของเขาเยอะๆเลยอ๋อ..อ..คนนี้นี่เอง เมื่อก่อนดิฉันชอบฉีกรูปงานของเขาเก็บไว้ แต่ตอนนี้หายไปหมดแล้วค่ะจากภัยธรรมชาติที่ชื่อว่า"เพื่อน"ค่ะ ประวัติสั้นๆของ"François Berthoud"ค่ะ

"François Berthoud"
Francois Berthoud lives and works in Milan and New York. He is known for his fashion illustrations. His early work has been largely published by the Conde-Nast VANITY directed by Anna Piaggi in the 80’s. Through the years he has illustrated series for magazines including Vogue, Interview, Numero, The New Yorker, The New York Times Magazine, Amica, Visionaire. His advertising work includes campaigns for department stores, cosmetic brands and fashion designers. Original artwork has been on view in several exhibitions in Europe and Japan.

"Gang of Four"

"Gang of Four"-คือหมายความถึง"Comme des Garçons"อันประกอบไปด้วยหัวเรือใหญ่ที่ทั้งเก่าและแก่(มาก)อย่างคุณยาย"Rei Kawakubo"ส่วนลูกเรือที่เหลือคือ"Junya Watanabe","Tao Kurihara"และน้องใหม่(รึปล่าวไม่รู้)อย่าง"Fumito Ganryu" ไปอ่านเรื่องแบบเต็มๆของ"Gang of Four"ได้ที่ลิงค์นี้ค่ะ "Gang of Four" เพิ่งเคยเห็นรูปครบทั้งสี่คนนี่แหละค่ะ อืม..ม..ถึงจะเป็นรูปวาดก็เถอะ ดิฉันมีความรู้สึกเหมือนดีไซน์เนอร์ในกลุ่มของ"Comme des Garçons"นี้มักไม่ค่อยมีรูปถ่ายหรือไม่ค่อยเป็นข่าว ไม่ทราบว่าเป็น"คอนเซป"ของคุณยายแกอยากให้แบรนด์ดูลึกลับหรือปล่าว? เพราะดิฉันหารูปของทั้งสามคนยากมากถึงขั้นหาข่าวหารูปไม่ค่อยเจอ จะเจอก็เจอแต่รูปกับข่าวของคุณยาย

"Walter van Beirendonck" F/W 2008-2009

"Walter van Beirendonck"เจ้าของแบรนด์ขวัญใจวัยรุ่น"W&LT"ผู้โด่งดังในยุค90 แม้มาถึงปัจจุบันนี้เสื้อผ้าของ"Walter van
Beirendonck"ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงแนวทาง ทั้งสีฉูดฉาดและแนวคิดแบบการ์ตูนยังคงมีให้เห็นในทุกคอเลคชั่น

Bangkok Fashion Week Spring/Summer 2008 Final Schedule

คงเป็นแฟชั่นวีคเมืองเดียวในโลกที่ต้องคอยติดตามข่าวอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ข่าวลือเรื่องรวมงานไปจนถึงการย้ายวันย้ายเวลาการเดิน แล้วคงเป็นเมืองเดียวในโลกที่มีแฟชั่นวีคซ้อนควบกันถึงสองงาน นอกจากซ้อนกันแล้วยังมีแบรนด์เดียวเอาเสื้อเหมือนกันเดินสองงานด้วย อืม..ม..ต้องมีใครเข้าใจอะไรผิดแน่ๆเลยแต่คงไม่ใช่ดิฉันมาดูตารางที่แน่นอนแล้ว(?)ดีกว่าค่ะ
BIFW
Thursday 20 March 2008
16.00 - Extravaganza by L'Oreal Professionnel
19.00 - Asava inspired by Singha
21.00 - Theatre
Friday 21 March 2008
16.00 - FASH by Srinakharinwirot University
20.30 - Kunitar & 8E88
Saturday 22 March 2008
16.00 - Pichita
18.00 - 27 Nov.
20.30 - Greyhound by Nokia
Sunday 23 March 2008
16.00 - Top & Bottoms by Phuket Mermaids
18.00 - Nagara
20.30 - Fly Now
ELLE
Friday 21 March 2008
19.30 - Kai
21.00 - 27 Friday
Saturday 22 March 2008
16.30 - Hook's by Prapakas
18.00 - Asava
19.30 - Kloset Red Carpet
21.00 - Senada Theory
Sunday 23 March 2008
16.30 - Tipayaphongpoosanaphong
18.00 - AB-Normal
19.30 - Zenithorial
21.00 - Sretsis

And the Gayest Songs Of All Time Are....

เนื่องในงานครบรอบ30ปีของงาน"Sydney’s Gay and Lesbian Mardi Gras"เลยมีการโหวตเพลงที่อืม..ม.."เกย์สุด..สุด..ตลอดกาล"ซึ่งผลออกมาดังนี้ค่ะ ดูว่าเพลงในดวงใจของใครจะติดหรือหลุดจากอันดับบ้างค่ะ มีทั้งหมด50อันดับค่ะเรียงตามความฮิตค่ะ มาดู10อันดับแรกกันค่ะ

01. ABBA “Dancing Queen”
02. Village People “YMCA”
03. Gloria Gaynor “I Will Survive”
04. The Weathergirls “It’s Raining Men”
05. Kylie Minogue “Your Disco Needs You”
06. Pet Shop Boys “Go West”
07. Kylie Minogue “Better The Devil You Know”
08. Olivia Netwon-John “Xanadu”
09. Madonna “Vogue”
10. Alicia Bridges “I Love The Nightlife”

ดูที่เหลืออีก40อันดับได้ตามลิงค์นี้ค่ะ "50 Gayest Songs Of All Time"

High Fashion No.4 2008

"High Fashion"เป็นหนังสือที่ดิฉันซื้อมานาน ปีนึงออกแค่ 6 เล่มเมื่อก่อนนี้แบ่ง เป็นเล่มชายเล่มหญิงตอนหลังนี้มายุบรวมกันเป็นเล่มเดียวเล่มนี้เป็นเล่มที่สอง ของปีคือเป็นเล่ม"Summer"ของปีนี้ ด้านในมีคอลัมน์พิเศษของ"NicolasGhesquière"ที่ทำกับห้องเสื้อ"Balenciaga"มาครบสิบปีมีทั้งบทสัมภาษณ์และรูปย่อยๆของคอเลคชั่นทั้งหมดที่"NicolasGhesquière"ทำให้กับ"Balenciaga"มา นับตั้งแต่คอเลคชั่นแรกเมื่อ"Spring/S

ummer 1998"มาจนถึง"Spring/Summer 2008" นอกจากนี้เล่มนี้ยังมีสัมภาษณ์"Kris van Assche"กับงานของ"Dior Homme"เล่มนี้ต้องเก็บไว้ค่ะ เพราะอีกไม่นานดิฉันว่าคงเปลี่ยนดีไซน์เนอร์ใหม่ จะได้จำได้ว่าเคยมีคนทำ"Dior Homme"ชื่อ"Kris van Assche" แต่เท่าที่อ่านคร่าวๆเธอยังคงดู"มั่นใจ"อยู่ค่ะส่วนอื่นๆก็มีเรื่องดีไซน์เนอร์ที่ใด้แรงบันดาลใจจากงานศิลปในคอเลคชั่น"Spring/Summer 2008"ว่ามีใครบ้าง หนังสือ"High Fashion"เล่มนี้เลยมีคำโปรยไว้บนหน้าปกว่า"Mode Moves Us / Art Touches Us"

Bangkok Fashion Week Spring/Summer 2008

นี่เป็นครั้งแรกที่ดิฉันออกมาเขียนนอก"thaicatwalk"คงมีคนถามว่าทำไมถึง ต้องแยกออกมาเป็นBlogด้วย อืม..ม..หาใช่ดังแล้วแยกวงค่ะ แต่ว่าเพื่อความสะดวกในการเขียนเรื่องต่างๆที่บางทีอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับแฟชั่นเสียเท่าไหร่ แต่ส่วนใหญ่แล้วเนื้อหาต่างๆก็ยังคงเกี่ยวกับแฟชั่นเหมือนเดิม เรื่องแรกตอนนี้ในวงการคนที่สนใจแฟชั่นคงไม่มีเรื่องไหนเกินงาน"BIFW"และงาน"ELLE Fashion Week" ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวลือกันว่าจะรวมเป็นงานเดียวกันซึ่งในความคิดเห็นของดิฉันก็ว่าแต่แรกแล้วว่าคงเป็นไปได้ยากค่ะ เพราะต่างคนต่างมีสปอนเซอร์ในธุระกิจที่เหมือนกันอืม..ม..ผ่านไปเถอะค่ะนั้นไม่ใช่ประเด็น แต่มาถึงตอนนี้ ทั้งสองงานถึงยังคงแยกกันจัดเหมือนเดิมแต่ว่าจัดในเวลาที่ตรงกัน ทำให้เหล่าบรรดาผู้ซึ่งชอบชมแฟชั่นโชว์เป็นชีวิตจิตใจอาจจะต้องเลือกดูโชว์ของห้องเสื้อใดห้องเสื้อหนึ่ง แต่มาจนถึงตอนนี้เวลาโชว์และจำนวนห้องเสื้อก็ยังไม่นิ่งยังมีการย้ายวันและเวลา หรือบางห้องเสื้อก็ยังไม่แน่นอนว่าจะมีโชว์หรือไม่ คงต้องรอวันแถลงข่าวของทั้งสองค่าย ซึ่งทางBIFWจะเป็นคนแถลงข่าวก่อนในวันอังคารที่ 4 มีนาคมเวลา 14.30 ที่"Studio@Paragon" ส่วนทาง"ELLE"จะทำการแถลงข่าวในวันพฤหัสที่ 6 มีนาคมเวลา 13.30 ที่"Lobby Zone"ศูนย์การค้า"CentralWorld" ส่วนตอนนี้ตารางวันที่ของโชว์ที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงคือตามนี้ค่ะ

BIFW

March 20th (Thu.) 16.00 L'Oreal / 19.00 Asava / 21.00 Theatre

March 21st (Fri.) 16.00 FASH / 20.30 Kunitar & 8E88

March 22nd (Sat.) 18.00 27Nov. / 20.30 Greyhound

March 23rd (Sun.) 16.00 Phuket Mermaids / 18.00 Nagara / 20.30 Flynow)

ELLE

March 21 (Fri.) 19.30 Kai / 21.00 27Friday

March 22 (Sat.) 16.30 Hook's (เสื้อของผักกาด) / 18.00 Asava / 19.30 Kloset / 21.00 Senada

March 23 (Sun.) 16.30 Tipayaphongpoosanaphong / 18.00 AB Normal / 19.30 Zenithorial / 21.00 Sretsis

Detail Show Schedule Credit : Numebkk